รีวิว ASUS Zenfone Max Pro (M1) สมาร์ทโฟนสุดคุ้ม มาพร้อมกับ Pure Android

ASUS Zenfone Max Pro (M1) เปิดตัวมาช่วงต้นเดือนได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ เพราะราคาเปิดตัวที่แสนถูกแต่กับมาพร้อมประสิทธิภาพที่เกินค่าตัว มาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon 636 ชิปตัวนี้ถือว่าแรงมากเมื่อเทียบกับ snap625 และชิปซีรี่ย์นี้จุดเด่นคือ ใช้พลังงานน้อยไม่เปลืองแบตนั้นเอง แต่ทาง ASUS ได้จับชิปตัวนี้มาลงไว้ในซีรี่ย์ Max Pro ซึ่งเป็นซีรี่ย์ที่เน้นเรื่องแบตเตอรี่อยู่แล้ว ยิ่งทำให้ Zenfone Max Pro (M1) ใช้งานได้ยาวนานขึ้นไปอีก เท่านั้นยังไม่พอสำหรับซีรี่ย์ Max Pro ความอึดถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาแต่ยังสามารถชาร์จแบตให้กับเครื่องอื่นได้ด้วย เหมือนกับเราพกเพาเวอร์แบงค์ไปในตัวเลยทีเดียว

จุดเด่นของ ASUS Zenfone Max Pro (M1) คือเรื่องแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน เพราะมาพร้อมกับจำนวนแบต 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็วที่ 10W (5V 2A) ถึงแบตจะมีขนาดใหญ่แต่ตัวเครื่องบางเพียงแค่ 8.46 มม. และมีน้ำหนักเพียงแค่ 180 กรัม เท่านั้นเองครับ ขนาดแทบจะไม่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปที่มากับแบตเพียงแค่สามพันกว่ามิลลิแอมป์

จำนวนแบตเตอรี่เยอะขนาดนี้ ใช้งานทั้งวันยังเหลือเผื่ออุปกรณ์อื่นๆด้วยโหมด OTG charging เพียงเสียบสายก็พร้อมปล่อยกระแสไฟใหเกับตัวอื่นได้เลย ไม่ต้องลงแอพเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก

Zenfone Max Pro (M1) ไม่ได้อัดแค่จำนวนตัวเลขแบตเตอรี่มาให้ดูเยอะเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค สามารถสอบผ่านความปลอดภัย จากมาตรฐานการทดสอบอุตสาหกรรมถึง 12 มาตรฐาน โดยเฉพาะ JEITA Protection มาตรฐานการจัดการอุณหภูมิของแบตเตอรี่จากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้ยากที่สุดอีกด้วย

ส่วนการใช้งานด้านอื่นๆ เดี๋ยวเราไปดูพร้อมๆกันได้เลยว่า Zenfone Max Pro (M1) ทำไมคนถึงให้ความสนใจมากขนาดนี้ เดี๋ยวไปดูพร้อมๆกันได้เลยครับ

SPEC ASUS Zenfone Max Pro (M1)

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.99 นิ้ว สัดส่วน 18:9 ความละเอียด FHD+ 2160×1080 พิกเซล ความสว่างอยู่ที่ 450 nit Contrast Ratio ที่สูงถึง 1500:1
  • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 636 Octa Core ความเร็ว : 1.8 GHz
  • GPU Adreno 509
  • RAM 3 GB (รุ่นที่ผมรีวิวคือ 3GB)
  • ROM 32 / GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำ microSD card ได้สูงถึง 2TB
  • wifi 802.11 b/g/n, WiFi Direct, WiFi hotspot, GPS, Bluetooth 4.2
  • Android 8.1 (Oreo)
  • กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f2.2 พร้อมไฟแฟลช Softlight LED
  • กล้องหลังแบบคู่ Dual Camera ความละเอียด  13 + 5 ล้านพิกเซล
  • รองรับระบบลายนิ้วมือ (Finger Print) และ ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า (Face Detection)
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็วที่ 10W (5V 2A)
  • ขนาดตัวเครื่อง 159 × 76 × 8.46 มม. น้ำหนัก 180 กรัม
  • ราคาเปิดตัว 5,990 บาท

แกะกล่องเช็คของ

อุปกรณ์ภายในตัวกล่องจะมีดังนี้

  • ตัวเครื่อง ASUS Zenfone Max Pro (M1)
  • อแดปเตอร์ รองรับการชาร์จเร็วที่ 10W (5V 2A)
  • สาย USB
  • สาย USB-otg
  • หูฟังและจุ๊ปสำรอง
  • เข็มจิ้มถาดซิม
  • คู่มือการใช้งาน

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

Zenfone Max Pro(M1) มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว จอ IPS ความละเอียด Full HD+2160×1080 พิกเซล ความสว่างอยู่ที่ 450 nit Contrast Ratio ที่สูงถึง 1500:1 และอัตราส่วน 18:9 ไม่มีรอยแหว่งนะครับ การแสดงผลของหน้าจอทำได้สวยงามทุกมุมมอง กระจกครอบทับแบบ 2.5D เน้นความโค้งมน

ด้านบนขอบจอจะมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ลำโพงสนทนา เซนเซอร์วัดแสง และรุ่นนี้จะมีไฟแฟลช Softlight LED ช่วยในการเซลฟี่เมื่อแสงน้อยมาให้ ส่วนด้านล่างขอบจอจะไม่มีอะไรนะครับ

ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหุฟังขนาด 3.5 มม. /ไมค์สนทนา/ช่อง micro usb และ ลำโพงตัวเครื่อง

ด้านฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power มาให้

ด้านบนจะมีช่องไมค์ตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน

ด้านซ้ายจะมีช่องถาดซิมการ์ด รองรับการใช้งานสองซิมและเพิ่มหน่วยความจำได้

การออกแบบตัวเครื่อง ตัวเครื่องเป็น unibody วัสดุฝาหลังจะเป็นอลูมิเนี่ยมขึ้นรูปเน้นความโค้งมนส่วนหัวและท้ายจะเป็นพลาสติกเพื่อรับสัญญาณให้ดียิ่งขึ้น งานประกอบถือว่าดีมากๆครับกับเรทราคานี้

ด้านหลังจะโดดเด่นไปกับชุดกล้องหลังแบบคู่ Dual Camera แนวตั้ง ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED แบบทรูโทน ถัดลงมาตรงกลางจะเป็นตำแหน่งของปุ่มสแกนลายนิ้วมือ

ขนาดตัวเครื่องเมื่อถือใช้งาน ถึงจะมาพร้อมกับแบต 5000mAh แต่การหยิบจับใช้งานถือว่าสะดวกดี ไม่ใหญ่หรือหนามากนัก รวมไปถึงน้ำหนักด้วย

ระบบปฎิบัติการ

ASUS Zenfone Max Pro (M1) มาพร้อมกับ Android 8.1 (Oreo) แบบ Pure Android ไม่มีอะไรครอบทับ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เมื่อก่อนทาง asus ชอบยัดแอพต่างๆมาให้เยอะเกินทำให้ตัวเครื่องหน่วงเวลาใช้งาน คราวนี้ปัญหานั้นหมดไป การทำงานไหลลื่นมากขึ้นและมีความปลอดภัยสูง ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเช่นกันครับ แต่ข้อเสียก็มีบ้าง เช่นไม่มีธีมสวยๆมาให้เปลี่ยน แอพฟังเพลงหรือดูหนังต้องใช้ของ Google ส่วนตัวผมชอบแบบ  Pure Android มากกว่านะ หลายๆค่ายก็เริ่มมาใช้แบบนี้กันเยอะขึ้น

สำหรับ ASUS มีอัพเดทเวอรืชั่นแอนดรอยส์ให้แน่นอนอย่างน้อยหนึ่งเวอร์ชั่นครับ

ประสิทธิภาพการทำงาน

ASUS Zenfone Max Pro (M1) มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 636 Octa Core ความเร็ว : 1.8 GHz / GPU Adreno 509 ชิปประมวลผลชุดนี้ให้ประสิทธิภาพดีมากๆ ส่วนมากจะเจออยุ่ในสมาร์ทโฟนราคากลางๆ แต่ ASUS ทำออกมาในเรทราคา 5990 บาท ถือว่าจัดเต็มมากๆ

คะแนน Antutu

สำหรับการเล่นเกมส์ เกมส์ ROV ยังสามารถเปิด High FrameRate 60fps ได้ด้วยนะครับ และ PubG ก็เปิด HD ได้ด้วย สำหรับคนชอบเล่นเกมส์ที่งบจำกัด แนะนำเลยตัวนี้ไม่ผิดหวัง เล่นเกมส์ได้ไหลลื่นที่สุดในเรทนี้ และเล่นได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ที่มากกว่า สวรรค์ของนักเล่นเกมส์ที่แท้จริง

หน่วยความจำ RAM 3 GB / ROM 32 GB รองรับ microSD card ได้สูงสุดที่ 2TB

แบตเตอรี่ 5,000mAh ใช้งานได้ยาวนานครับ ใช้งานทั่วไปตั้งแต่เช้าถึงเวลานอนไม่เคยหมดซักที นอกจากจะเล่นเกมส์แบบไม่วางมือถือ แบบนั้นหมดแน่นอน ตัวเครื่องยังรองรับการชาร์จเร็วที่ 10W (5V 2A)

รองรับ Dual 4G LTE น่าเสียดายที่ wifi รองรับแค่ 2.4 GHz (รองรับความเร็วสูงสุดได้ที่ 72 Mbps) การจับสัญญาณ GPS จับได้รวเร็วและแม่นยำมาก เซนเซอร์ต่างๆที่จำเป็นมีครบ

กล้องถ่ายรูป

กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f2.2 พร้อมไฟแฟลช Softlight LED มีโหมดบิวตี้มาให้ สามารถเลือกปรับเองหรือให้โปรแกรมคำนวณให้เลยก็ได้ครับ ถ้าปรับเองจะสามารถปรับสีผิว และความเนียนของใบหน้าให้

กล้องหลังแบบคู่ Dual Camera แนวตั้ง ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED แบบทรูโทน พอเป็น Pure Android หน้าตา UI หรืออินเตอร์เฟสจะดุโล้นๆนิดนึง การปรับตั้งค่าจะปรับแต่งได้น้อยไป ก้ต้องเข้าใจหล่ะว่าซีรี่ย์นี้เขาไม่เน้นกล้องเท่าไหร่ จะใช้ auto เป็นส่วนมาก การปรับแต่งต่างๆเลยถูกถอดออกไป

ตัวอย่างจากกล้องหลัง Zenfone Max Pro (M1)

 

สรุป

ASUS Zenfone Max Pro (M1) เปิดราคามาได้เร้าใจมากๆ (5,990 บาท) สเปคที่ให้มาเกินค่าตัวไปเยอะเลย ทั้งชิปประมวลผล แบตเตอรี่ รวมไปถึงหน้าจอที่แสดงผลได้สวยงาม ถ้าต้องการสมาร์ทโฟนสเปคดีๆ เน้นเล่นเกมส์เป็นหลักขอแนะนำรุ่นนี้เลยครับ เหมาะสำหรับการเล่นเกมส์มากในงบประมาณนี้ จอใหญ่ ชิปแรง แบตทน

ข้อพิจารณา

ตัวเครื่องไม่รองรับ wifi 5.0 GHz / ไม่มี VoLTE

 

 

мгновенный кредит на карту онлайн zaymi-bistro.ru беспроцентный займ онлайн на карту

Related articles

HOW TO – ไล่ล่าหา CVE ตัวแรก บน Wordfence Bug Bounty Program ทำยังไงไปดู !!

ในที่สุดหลังจากรอมานาน ตอนนี้แอดได้รับการเผยแพร่ CVE อย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้น แอดก็จะสามารถเขียนเนื้อหาได้แบบจัดเต็ม เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าไปหามายังไง และใช้แพลตฟอร์มไหนครับ แต่ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจนิยามแต่ละอย่างกันก่อน...

Review: รวมประสบการณ์สอบ Academic Cert ทุกใบ จากค่าย TCM Security !!

กว่าจะสอบผ่านตัวละตัวเลือดตาแทบกระเด็น แต่ในที่สุดแอดก็สามารถความใบเซอร์จากค่าย TCM Security ได้จนครบแล้ว !! จริง ๆ ยังเหลืออีกใบ คือ...

[HOW TO] สร้าง QR Code เพื่อแชร์ Wi-Fi ให้เพื่อนได้ง่าย ๆ บน Windows 11

สำหรับใครที่เปิดคาเฟ่, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ หรือแม้ในบ้านที่มีคนมาขอใช้ Wi-Fi เยอะ ๆ แล้วเราขี้เกียจบอกรหัสผ่านซ้ำ ๆ...

Maktar เปิดตัว “Qubii Power” หัวชาร์จอัจฉริยะที่สำรองข้อมูลได้ ! เปิดตัวครั้งแรกในไทยที่งาน Commart 2025 พร้อมกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม

บริษัท Maktar ผู้นำด้านโซลูชันการจัดเก็บและสำรองข้อมูลจากประเทศไต้หวัน เปิดตัวนวัตกรรม ใหม่ล่าสุด “Qubii Power” อย่างเป็นทางการในประเทศไทยครั้งแรกที่งาน Commart...

[Review] สอบ CRTA ใบเซอร์สาย Pentest ระดับเริ่มต้น ลดราคาจาก $99 เหลือ $9

เห็นว่ามีเพื่อน ๆ สนใจการสอบ CRTA หลายคนเลยนะครับ และไหน ๆ แอดก็สอบผ่านแล้วเดี๋ยวขอมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังสักหน่อย เผื่อใครอยากจะลองซื้อมาเรียนและเตรียมตัวสอบ...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า