สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Extreme PC ทุกๆท่าน กลับมาอีกครั้งสำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟน รอบนี้ผมมากับสมาร์ทโฟนของค่าย XIAOMI ถ้าเอ่ยถึงแบรนด์นี้ทุกคนที่รู้จักดีกับ สมาร์ทโฟนราคาไม่แพงแต่ให้ประสิทธิภาพการทำงานดียิ่ง คุ้มเงินทุกบาทนั้นเอง
รอบนี้ผมได้มีโอกาสใช้ Redmi Note5 มาซักพักเลยอยากจะมารีวิวการใช้งานให้เพื่อนๆได้ทราบกันครับ เดี๋ยวไปดุพร้อมๆกันเลยว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
SPEC XIAOMI Redmi Note 5
- จอแสดงผล ขนาด 5.99 นิ้ว (Fullscreen) ความละเอียด FullHD+ 1080 x 2160 พิกเซล
- CPU Qualcomm®Snapdragon™ 636 Octa-core 1.8 GHz
- GPU Adreno 509
- RAM 3
- ROM 32 รองรับ microSD CARD ได้สูงสุด 256 GB
- Android 8.1 ครอบทับด้วย MIUI 9
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band 2.4-5.0 GHz
- Bluetooth 5.0 พร้อม อินฟาเรด
- Dual stand ( 4G / 3G )
- ระบบสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint) พร้อมกับ ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า (Face Unlock)
- กล้องหน้า ความละเอียด 13 MP f2.0 พร้อม LED flash
- กล้องหลังคู่ Dual Camera ความละเอียด 12 MP ( f/1.9, 1.4µm ) + 5 MP ( f/2.0, 1.25µm )
- แบตเตอรี่ 4.000mAh
- ขนาดตัวเครื่อง 158.6 x 75.4 x 8.1 มม. หนัก 181 กรัม
- (สำหรับรุ่นที่ผมรีวิว จะเป็น RAM 3GB / ROM 32GB) ราคา 5,990 บาท
แกะกล่องเช็คของ
อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้
- ตัวเครื่อง Redmi Note 5
- หัวชาร์จไฟแบบ 5V-2A ไม่ใช่ Quick Charge นะครับ (ตัวเครื่องรองรับ Quick Charge)
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือการใช้งาน
- เคสซิลิโคนแบบใส คุณภาพดีมาก ปกป้องตัวเครื่องพร้อมเลนส์ได้เลยเวลาวางพื้นระนาบ
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
Xiaomi Redmi Note5 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว ชนิด IPS LCD อัตราส่วน 18 : 9 (Fullscreen) ความละเอียด FHD+ 1080 x 2160 พิกเซล (403ppi) ครบทับด้วยกระจก 2.5D ป้องกันรอยแบบ Corning Gorilla Glass การแสดงผลสวยงามทีเดียวครับ ถือว่าดีมากกับเรทราคานี้ ขอบจอด้านข้างจะเหลือพื้นที่น้อยมากๆ แต่หัวท้ายจะมีบางส่วนที่เหลือพื้นที่ ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่ยาวกว่าค่ายอื่นนิดนึง(แต่ไม่มีติ่งบนหน้าจอ) แต่ก็ถือถนัดดีครับ เวลาใช้งานมือเดียว
เหนือบริเวณหน้าจอ จะมีชุดกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0 / ลำโพงสนทนา / เซนเซอร์วัดแสง / แฟลชกล้องหน้าสำหรับการเซลฟี่ และไฟแสดงสถานะ
ด้านล่างขอบจอจะไม่มีอะไร เพราะปุ่มนำทางอยู่ด้านในจอเรียบร้อย
ด้านล่างของตัวเครื่อง จะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. / ไมค์สนทนา / ช่อง micro usb / ลำโพงตัวเครื่อง
ด้านข้างฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power
ด้านบนจะมีไมค์ตัดเสียง และ อินฟราเรด IR (ใช้สำหรับเป็นรีโมท)
ฝั่งซ้ายจะมีช่องสำหรับใส่ถาดซิมการ์ด
ถาดซิมแบบไฮบริด เลือกการใช้งานระหว่าง ใช้สองซิมหรือเพิ่มหน่วยความจำ
ฝาหลังขึ้นรูปแบบ Unibody เน้นความโค้งมนเพื่อการหยิบจับใช้งานที่ง่าย วัสดุจะเป็น Aluminum ส่วนหัวและท้ายจะเป็นตำแหน่งของแถบรับสัญญาณ งานดีมากๆครับ การสัมผัสให้ความรู้สึกดี
ตำแหน่งของฝาหลังจะโดดเด่นไปกับชุดกล้องหลังแบบคู่ Dual Camera ความละเอียด 12 MP( f/1.9, 1.4µm ) + 5 MP ( f/2.0, 1.25µm ) พร้อมแฟลชทรูโทน Dual-LED การวางตำแหน่งจะเป็นแบบตั้ง ตัวเลนส์จะยื่นขึ้นมาเล็กน้อยครับ กรอบเลนส์ตัดงานดีมากนึกว่าเครื่องราคาเป็นหมื่น (เวลาใส่เคสที่แถมมาให้จะช่วยปกป้องเลนส์ได้ดีพอสมควร วางไม่ชนพื้น)
ถัดลงมาจากชุดกล้องหลังจะเป็นตำแหน่งของ ระบบสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint)
ระบบปฎิบัติการ
Redmi Note5 มาพร้อมกับ Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย MIUI 9.5 หน้าตา UI เน้นความเรียบง่าย มีธีมต่างๆให้โหลดใช้งานเช่นเดิม ความลื่นของระบบถือว่าดีครับ การแจ้งเตือนต่างๆ(Notification)ก็ทำได้ดีมาก มีตัวเลขกำกับที่ไอคอนด้วย
พอเป็น MIUI 9.5 เมนูหรือ UI อาจจะดีคล้ายๆก่อนเยอะ แต่จะเพิ่มในส่วน Gesture มาให้ครับผม เช่นการปิดหรือเปิดปุ่ม navigation key
ส่วนการใช้งานสองไอดี App Clone ก็ยังใช้งานได้เช่นเดิม หรือแม้กระทั้งการล็อคการเข้าแอพจากบุคคลอื่นได้ App Lock / โหมดรีโมท มีมาให้พร้อมใช้งาน
ประสิทธิภาพการทำงาน
Redmi Note5 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm®Snapdragon™ 636 Octa-core 1.8 GHz / GPU Adreno 509 สำหรับชิปตัวนี้เท่าที่ได้ลองใช้มากับหลายๆรุ่นบอกเลยว่าเป็นชิปที่ดีมากๆ แรงพอประมาณสำหรับการใช้งาน แต่เรื่องการประหยัดพลังงานถือว่าทำได้ดีมากๆ โดยเฉพาะ Adreno 509 สามารถเอาไปเล่นเกมส์ได้ดีเลยครับ ถึงจะไม่เท่าเรือธง แต่เรทราคาต่ำกว่าหมื่นแล้วมาพร้อมชิปรุ่นนี้ผมถือว่าดีมากทีเดียว
หน่วยความจำสำหรับตัวที่รีวิวคือ RAM 3GB / ROM 32GB รองรับ microSD CARD ได้สูงสุด 256 GB
เท่าที่ผมลองใช้งานเอาไปเล่นเกมส์ต่างๆ ก็ถือว่าลื่นพอใช้ได้เลย แต่ Pubg Mobile ซอฟแวย์ปรับได้แค่ต่ำสุดนะครับ และก็แลคบ้างเวลาเข้าแผนที่รายละเอียดสูงๆ คงรอการอัพเดท (เพราะเคยใช้ชิปตัวนี้กับค่ายอื่นดันไม่แลคเท่า)
เนื่องจากราคาค่าตัวเพียงแค่ 5990 บาทแล้วมาพร้อมกับชิปรุ่นนี้ก้ไม่รู้จะบ่นยังไงต่อหล่ะ เพราะทำคะแนนได้ดีเกินค่าตัวไปเยอะเลย แค่แจ้งให้ทราบคร่าวๆนะครับ
ดูหนัง-ฟังเพลง
หน้าจอขนาด 5.99 แสดงผลได้สวยงามและไม่มีรอยบากมากวนใจเวลาดูหนังหรือเล่นเกมส์ ส่วนเสียงผ่านลำโพงตัวเครื่องอยุ่ในเกณ์ทั่วไปครับ แต่เสียงผ่านหูฟังถือว่าให้คุณภาพที่ดีพอสมควร สามารถปรับ EQ ตามสไตล์การรับฟังของแต่ละคนได้ และที่ชื่นชอบมากสุดคือยังเหลือพอรืต 3.5 มม.ไว้ให้ ในส่วนของวิทยุ FM ก็ยังมีให้เช่นเดิมครับผม
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้า ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ตัวแอพสามารถถ่ายแบบ Portrait(หน้าชัดหลังเบลอได้) ภาพจากกล้องหน้าครับ
กล้องหลัง Dual Camera ความละเอียด 12 MP ( f/1.9, 1.4µm ) + 5 MP ( f/2.0, 1.25µm )พร้อมแฟลชทรูโทน Dual-LED และที่ชื่นชอบเป็นพิเศษคือ Portrait Mode ถือว่าทำได้ดีมากๆสำหรับสมาร์ทโฟนราคา 5990 บาทครับ แต่น่าเสียดายตรงที่โหมดปรับเอง ตั้งค่าได้น้อยไปนิดนึง
ภาพจากกล้องหลัง
สรุป
เอ้ยนี่มันราคา 5,990 บาทจริงๆเหรอเนี้ยะ ….หลังจากได้ใช้งานมา ตัวเครื่องออกแบบได้สวยงามดีครับมีความยาวๆนิดนึงแต่ก้จับถนัดมือดี วัสดุถือว่าดีมากเลยเพราะเป็น Aluminum ฟิลลิ่งในการหยิบจับดีมากเลย จอแสดงผลสวยงาม กล้องหลังถือว่าทำได้ดีมากๆ ตั้งแต่มีตระกูล Redmi มา ชิปประมวลผลชุดนี้ให้ประสิทธิภาพดีมากไม่น่าเชื่อว่าจะมาอยุ่กับมือถือในเรทนี้ได้ (แบบนี้ก็ตอกฝาโลง snap625 สนิทเลย) แบตเตอรี่ 4000 mAh ใช้งานยาวนานมากๆครับ แต่รองรับแค่ Quick Charge 2.0 นะครับ และในกล่องก้ไม่แถม Quick Charge น่าเสียดาย ต้องควักเงินซื้อเอง ก้ต้องทำใจหล่ะ ด้วยราคาประมาณนี้กับสิ่งที่ได้ถือว่าให้มาเยอะแล้ว ใครกำลังสนใจ Redmi Note5 บอกเลยไม่ต้องคิดมากครับ คุ้มมากแล้ว
สำหรับวันนี้ผมขอลาเพียงเท่านี้ก่อน รีวิวหน้าเจอกันครับกับเรือธงประจำค่าย MIX2s เร็ว แรง แฝงความหรูหรา ในราคาเอื้อมถึง เดี๋ยวเจอกันครับผม
You must be logged in to post a comment.