ก่อนที่เราจะพูดถึง OPPO R15 PRO เราจะกลับไปดูความสำเร็จของซีรี่ย์ R รุ่นก่อนหน้านี้กันก่อน เนื่องจากทาง OPPO ได้วางไลค์สินค้าของซีรี่ย์ R เป็นซี่รี่ย์เรือธงของทางค่าย จะแตกต่างกับซีรี่ย์ F อย่างชัดเจนนั้นคือ material หรือวัสดุที่นำมาประกอบ ให้มาดีกว่าแน่นอน จากความสำเร็จที่ผ่านมาของ R9s ทั้งในเรื่องการออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่ดีทำให้ยอดขายของ R9s ขึ้นแท่นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ขายดีอันดับ 1 ในโลกในไตรมาสแรกของปี 2560 (ข้อมูลจาก Strategy Analytics) ไม่ใช่แค่คนไทยให้การยอมรับ แต่นั้นคืออันดับหนึ่งของโลกกันเลยทีเดียวครับ
มาถึงซีรี่ย์ R รุ่นใหม่ล่าสุดของทาง OPPO ที่พึ่งเปิดตัวออกไป ด้วยความที่ทาง OPPO ใส่ใจและเลือกใช้วัสดุที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ทาง oppo th สร้างความมั่นใจในตัวสินค้าของ OPPO R15 PRO ว่าทำออกมาดีแน่นอน จึงกล้าการันตีในตัวสินค้าและจัด บริการหลังการขายที่เหนือใคร OPPO Premium Service สำหรับเฉพาะ OPPO R15 Pro โดยเฉพาะ หากเครื่องมีปัญหาจากการผลิต ไม่ต้องรอซ่อม เปลี่ยนเครื่องทันทีที่ศูนย์ OPPO Brand Shop ภายใต้เงื่อนไขการประกัน เท่าที่ผมศึกษามาไม่เคยมีแบรนด์ไหนที่กล้ารับประกันสินค้าแบบนี้ให้แก่ลูกค้าเลยครับ(ฝั่งแอนดรอยส์) ถือเป็นก้าวสำคัญในเรื่องการรับประกันระดับ Premium Service ไม่มั่นใจจริงคงไม่กล้ารับประกันสินค้าให้แบบนี้แน่นอน
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
OPPO R15 PRO มีหน้าจอแบบ Super Full Screen 6.28 นิ้ว ด้วยอัตราส่วน 19:9 พร้อมสัดส่วนพื้นที่จอแสดงผล 89% พื้นที่ด้านข้างเหลือพื้นที่น้อยมากๆ กรอบด้า่นข้างเป็นโลหะและกระจกโค้งมนแบบ 3D ไล่เฉดสี เพิ่มความสวยงามให้กับตัวเครื่อง
OPPO R15 PRO ออกแบบร่วมกับดีไซน์เนอร์ระดับโลกที่คร่ำหวอดในวงการออกแบบอุตสาหกรรมอย่าง Karim Rashid ทำให้ตัวเครื่องออกมาได้สวยงามและดูหรูหราเปรียบเสมือนเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง สำหรับการวางขายจะมี 2 สี ได้แก่ สีแดง (Ruby Red) และสีม่วง (Cosmic Purple)
กล้องหลังแบบคู่ 20 + 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 เซนเซอร์ใหม่ Sony IMX519
- มีเทคโนโลยี AI-enhanced camera ที่มีฟีเจอร์ช่วยปรับแต่งภาพอัตโนมัติต่างๆ สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายภาพไม่มาก ก็ทำให้ได้ภาพที่สวยงามได้เช่นกัน คือ ถ่ายภาพง่ายและสนุกมากขึ้นเพราะมีฟีเจอร์ช่วยให้ภาพถ่ายออกมาสวย
- AI portrait mode มีฟีเจอร์ Bokeh Effect ที่เบลอหลังได้อย่างเรียบเนียนคมชัด ลองถ่ายภาพ portrait แบบหน้าหลังเบลอให้เห็นความคมชัด ความเนียน ด้วยกล้องหลังคู่ ซึ่งมาพร้อมกับผู้ช่วยปรังแสงเหมือนไฟสตูดิโอ 3D portrait lighting
- AI Beauty 2.0 technology ผู้ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามอย่างเหมาะสมด้วยจุดประมวลผลกว่า 296 จุด และสามารถวิเคราะห์ใบหน้าได้ทั้งเพศ สีผิว โครงหน้า เพื่อภาพถ่ายบุคคลและภาพเซลฟี่ที่สวมเป็นธรรมชาติ พร้อมลงโซเชียลมีเดียทันทีในทุกๆ สถานการณ์
- AR Sticker สติกเกอร์น่ารักๆ ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง R15 Pro ทำให้การถ่ายภาพเซลฟี่สนุกสนานมากยิ่งขึ้น
- เซนเซอร์ HDR ที่จะบันทึกภาพหลายๆ ภาพอย่างรวดเร็ว แล้วนำมาประมวลเพื่อให้องค์ประกอบของภาพทุกส่วนสวยคมชัดแม้ในสภาวะแสงน้อย
- กล้องคู่รองรับการถ่ายภาพวิดีโอแบบ Slow motion ทั้ง 240fps ในความละเอียดระดับ 720p หรือ 120fps ในความละเอียดระดับ 1080p เพื่อสร้างสรรค์คลิปวิดีโอให้แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร (ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังรองรับการถ่ายภาพวิดีโอที่ 30fps ในความละเอียดระดับ 1080p และสำหรับเฉพาะกล้องหลังสามารถถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียดสูงสุด 2160p)
(ในส่วนของการถ่ายภาพเดี๋ยวอยากให้สมาชิกมาลองเล่นด้วยตัวเองจะดีสุดครับ จะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกันว่าความสามารถของ OPPO R15 PRO สามารถทำงานได้ดีขนาดไหน)
Snapdragon 660 AIE ชิปประมวลผลชุดนี้จะสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งานและนำไปวิเคราะห์เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานแต่ละบุคคลได้(เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์) อะไรที่เราใช้งานบ่อยๆหรือฟังก์ชั่นไหนที่เราใช้งานประจำ ชิปก็จะเรียนรู้และช่วยพัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และจะไปจัดการพลังงานได้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน เป็นเทคโนโลยีสอดคล้อง
สำหรับนักเล่นเกมส์ ชิปกราฟฟิค Adreno 512 ถือว่าแรงเพียงพอแล้วสำหรับหน้าจอความละเอียด FHD+ ครับ สามารถเล่น ROV 60fps ได้เช่นกัน และมีโหมดการเล่นเกมส์ มาด้วยเช่นเดิม
หน่วยความจำขนาด RAM 6 GB / ROM 128 GB
ช่องเสียบหูฟังยังเป็นพอร์ต 3.5 มม. จุดเด่นที่หลายค่ายชอบตัดออกไป คุณภาพเสียงผ่านหูฟังให้เสียงที่ดีมากๆ สำหรับค่าย OPPO ไม่เคยผิดหวังในเรื่องเสียงเลยจริงๆ
VOOC Flash Charge ชาร์จไวเพียง 5 นาที คุยสายได้นาน 2 ชั่วโมง
ถ้าย้อนกลับไปยุคของ Find7 ช่วงนั้นเป็นยุคที่สร้างความตื่นตัวให้กับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ถ้าพูดถึงเรื่องชาร์จเร็วทุกคนจะนึกถึงค่าย oppo เสมอ ใช้เวลารวดเร็วและปลอดภัย และจะมีมาให้เฉพาะกับรุ่นเรือธงของค่ายเท่านั้นเช่นซีรี่ย์ R และก็ไม่พลาดสำหรับ OPPO R15 PRO ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 3,430 mAh พร้อมกับเทคโนโลยี VOOC Flash Charge เช่นเดิมครับ ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์มาให้ครบ
ระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานแถมชาร์จเร็วอีก คนที่เสพติดเรื่องชาร์จเร็วจะรู้ดีว่าฟังก์ชั่นนี้จำเป็นจริงๆ เพิ่มความสะดวกให้ได้เยอะจริงๆ
พิเศษสุด สำหรับผู้ที่สนใจสามารถ Pre-order ตั้งแต่วันนี้จนถึง วันที่ 1 มิ.ย.ในราคา 19,990 บาท โดยจะได้รับ VIP card ซึ่งประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี + Gift Box ซึ่งเป็นสายชาร์จ VOOC พร้อมหัวชาร์จความเร็วสูงสำหรับรถรวมมูลค่ากว่า 3,000 บาท
OPPO R15 Pro จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. เป็นต้นไป
You must be logged in to post a comment.