เซินเจิ้น ประเทศจีน, 28 เมษายน 2565 – หัวเว่ยเผยแพร่รายงานการพัฒนาสีเขียวแห่งปี พ.ศ. 2573 (Green Development 2030 Report) ในระหว่างการเสวนาหัวข้อ “Green ICT Empowers Green Development” ภายในงานประชุม Huawei Global Analyst Summit 2022 (HAS 2022) ที่จัดขึ้น ณ เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยมีนักวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และสื่อมวลชนจากทั่วโลกเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก ในโอกาสนี้ นายเควิน จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดของธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีของหัวเว่ย ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับรายงานดังกล่าว พร้อมอธิบายถึงบทบาทและแนวทางที่เทคโนโลยีไอซีทีเข้ามามีผลต่อการพัฒนาอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รายงานการพัฒนาสีเขียวแห่งปี พ.ศ. 2573 (Green Development 2030 Report) เป็นรายงานฉบับล่าสุดภายใต้รายงานโลกอัจฉริยะ พ.ศ. 2573 (Intelligent World 2030) ที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ในอนาคตของของหัวเว่ย และยังถือเป็นแผนแม่บทสู่การพัฒนาภายในอุตสาหกรรมไอซีที รวมไปถึงแนวทางเพื่อช่วยในการพัฒนาอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยอ้างอิงข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่หัวเว่ยได้รวบรวมไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รวมไปถึงข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอีกกว่า 100 คน และองค์กรภายนอกอีกกว่า 30 แห่ง ซึ่งมีทั้งองค์กรภาครัฐ สมาคมอุตสาหกรรม สถาบันวิจัย และองค์กรเอกชน เป็นต้น
รายงานการพัฒนาสีเขียวแห่งปี พ.ศ. 2573 มุ่งเน้นให้เห็นว่าการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (digitalization) และการลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization) สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร รวมถึงแนวทางในการนำเทคโนโลยีไอซีทีสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปใช้ในอุตสาหกรรมสำคัญต่างๆ ภายในปี พ.ศ. 2573 โดยในรายงานได้กล่าวถึง 6 เทรนด์ในอนาคต ดังนี้
-
พลังงานหมุนเวียนจะเป็นที่แพร่หลาย
ในปี พ.ศ. 2573 ไฟฟ้ามากกว่า 50% จะมาจากพลังงานหมุนเวียน สัดส่วนการใช้ไฟฟ้าของผู้บริโภคทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับการบริโภคพลังงานประเภทอื่น ขณะเดียวกัน คาดว่าระบบกักเก็บพลังงานทั่วโลกจะสามารถรองรับการกักเก็บได้เพิ่มขึ้น 20 เท่า
-
ภาคอุตสาหกรรมจะมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แรงงานทุกๆ 10,000 คน จะทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ 390 ตัว
-
การขนส่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์
ทั่วโลกจะมีการใช้งานรถยนต์พลังงานใหม่กว่า 145 ล้านคัน และสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าอีกกว่า 100 ล้านสถานี
-
อาคารสิ่งก่อสร้างในอนาคตจะปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ (net-zero carbon) ได้สำเร็จ
อาคารที่สร้างใหม่คาดว่าจะบรรลุเป้าหมายในการลดก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ได้ภายในปี พ.ศ. 2573 ในขณะที่อาคารสิ่งก่อสร้างทั้งหมดคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ภายในปี พ.ศ. 2593
-
ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลสีเขียวจะกลายเป็นข้อกำหนดพื้นฐาน
ในปี พ.ศ. 2573 ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลจะมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานมากกว่าปัจจุบันถึง 100 เท่า
-
การใช้ชีวิตแบบคาร์บอนต่ำจะเป็นที่นิยม
ตลาดโทรเวชกรรม (telemedicine) ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า การศึกษาแบบออนไลน์ในประเทศจีนจะโตขึ้น 23 เท่า และยอดผู้ใช้บริการทัวร์เสมือนจริงจะมีมากถึง 1 พันล้านคน
You must be logged in to post a comment.