AMD เปิดเผย EPYC Server Processor และทางด้านราคา

AMD เปิดเผย EPYC server processor ใหม่อย่างเป็นทางการ, และราคาแบบคร่าวๆมาให้ดูกัน. หากเรามาดูทางฝั่ง Intel ผู้ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดแบบกินรวบผู้เดียวประมาณ 99.6% สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็น data center เรียกได้ว่ามีคนให้ความไว้วางใจกันเกือบจะทั้งโลกเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนทางฝั่ง AMD ก็จ้องตาเป็นมันสำหรับ ตลาดกลุ่มนี้ที่นับวันจะโตขึ้นมากเรื่อยๆ.

รุ่น 2 Socket Platform

แน่นอนว่าทาง AMD นั้นไม่คิดว่าจะเอาชนะได้ไปเสียทุกด้านสำหรับตลาดผู้บริโภค แต่จะเล่นเฉพาะกลุ่มเท่านั้นหรือในสิ่งที่ตัวเองถนัดไม่ว่าจะเป็นทางด้าน processor และตัว platform design. สิ่งที่นำเสนอครั้งนี้ได้นำเอาเทคโนโลจีแบบ สอง-socket processor ที่มาพร้อมแกน cores ที่มากกว่า, memory bandwidth ที่เหนือกว่า,และขีดความสามารถทางด้าน I/O ที่ดีกว่าหากเทียบกับทาง Intel Xeon processors ที่มีราคาเท่าๆกัน. ทั้งหมดทำออกมาด้วยกัน 9 รุ่นย่อย/SKUs ที่มาพร้อมหรือนำเสนอแบบ 8 channels ที่เป็น DDR4-2666 memory, ซึ่งมากกว่าของทาง Intel ที่มีมาแค่ 6 channel สำหรับ Skylake Xeon models.

AMD ยังทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่นหากเทียบกับทาง Intel ที่นำเสนอมาโดยจัดเต็ม 128 lanes ที่เป็น PCIe connectivity ให้กับชิปทุกรุ่น,  และแถมไม่แยกด้วยว่ารุ่นไหนควรจะรองรับการใช้งานหรือเป็น memory รูปแบบใด. ส่วนทางด้าน Intel (จำนวน PCIe lanes จะขึ้นอยู่กับรุ่นที่แพงหรือถูกกว่าซึ่งทาง Intel มักจะใช้ในการจัดกลุ่ม) การจัดแบ่งกลุ่มประเภทของการใช้งานสำหรับ PCIe จะช่วยให้ลดความต้องการของ PCIe switches, ซึ่งเป็นการออกแบบและจัดสรร lane บน Intel servers. และยังช่วยให้เมนบอร์ดนั้นไม่มีความซับซ้อนจนเกินไปและยังเอื้อประโยชน์กับ อุปกรณ์ประเภทที่เป็น PCIe อีกด้วยเช่น NVMe SSDs แบบเชื่อมต่อโดยตรง.

ส่วนทางด้านเรท TDPs นั้นจะเริ่มกันที่ 120W สำหรับ 8C/16T EPYC 7251 และ 180W สำหรับ 32C/64T 7601. ทางเราไม่มีข้อมูลของ Intel Skylake Xeon TDP ณ ตอนนี้. แต่ที่สังเกจต, จะเห็นได้ว่าเรทเริ่มกันที่ 140W-165W TDP นั้นจะเป็นของ กลุ่ม Skylake-X models, ซึ่งใช้ die ตัวเดียวกันใน Intel Xeons, หากมาดูทาง AMD น่าจะพอๆกันหรือดีกว่า.

สำหรับทางด้านความถี่ของ EPYC ที่เป็น processor จะเริ่มกันที่ 2.1GHz จนถึง 2.4GHz, ซึ่งดูแล้วมีความต่างที่ไม่มากเท่ากับฝั่ง Intel ที่เริ่มกันที่ 2.7-3.2GHz แบบ boost frequencies ที่สูงที่สุด. ทางเรารู้มาว่า AMD จะจัดชิปทุกรุ่นให้มาพร้อม 4-CCX (Core Complex), แต่จะลดทอนแกนหรือ disabling cores เพื่อแบ่งกลุ่มชิปออกเป็นรุ่นย่อยต่างๆ/SKUs. ส่วนทางด้านขีดความสามารถทางงด้าน I/O ของ, เช่น memory channels และ PCIe controllers, จะมีอยู่และประกอบอยู่ในแต่ละ CCX. การปลดใช้หรือ Disabling dies ทั้งหมดจะไปลดขีดความสามารถของตัวชิป. และสำหรับชิปรุ่นที่มีจำนวนแกนที่น้อยแต่มีเนื้อที่ silicon เหลือ, และแน่นอน active die ก็ยังคงใช้พลังงานอยู่อาจจะส่งผลไม่ดีกับอุณภูมิโดยเฉพาะกับรุ่นที่ให้ความเร็ว clock speeds ที่พอๆกันจะทำให้มีผลหรือข้อเปรียบเทียบที่ไม่ดีนัก. และสำหรับ memory channels ที่เพิ่มขึ้นมามันสามารถให้ AMD มีความจุทางด้าน memory เท่่ากับ 2TB per CPU.

ทาง AMD ได้นำเสนอผลการทดสอบเล็กๆมาให้ดูกันด้วย, ซึ่งได้นำเอาชิปทาง Intel รุ่นที่ใกล้เคียงกันมาเทียบเคียงกัน. เป็นชาร์ต (ด้านบน) ซึ่งแสดงให้เห็นทั้งทางด้านราคาและประสิทธิภาพมาให้ดู, จะเห็นได้ว่าแต่ละช่วงของราคาที่เปรียบเทียบนั้นประสิทธิภาพนั้นจะสูงขึ้นตามและมากกว่า (วัดจาก SPECint_เรท_base2006).

ข้อมูลการเปรียบเทียบครั้งนี้เกี่ยวขอ้งกับ Broadwell Xeons, แน่นอนว่าตอนนี้ทาง AMD ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับ Intel Skylake models, เหตุเพราะยังไม่เปิดตัวออกมา. และทาง AMD ยังกล่าวเสริมอีกว่า ไม่ได้สร้าง EPYC มาต่อกรกับ Broadwell-ที่เป็น Xeons. แต่มุ่งไปที่ Xeon E5-2640 รุ่นต่อไปซึ่งมีกลุ่มตลาดที่เยอะกว่าและยังกล่าวทับอีกว่าชิปของทาง AMD จะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าถึง 70% หากเทียบกับช่วงราคาที่เท่าเทียมกัน.

AMD ยังกล่าวเพื่มอีกถึง single-socket server ที่มีอัตราการเติบโตที่สูงในตลาด. จะมีเพียง 25% เท่านั้นหากเทียบส่วนแบ่งจาก 2-socket servers ที่จะเป็น 1 socket, เพื่อให้ single-socket platform มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ได้มีการลดทอนส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น sockets, องค์ประกอบเกี่ยวกับ networking, และ power supplies ส่วนประกอบเหล่านี้ทำให้ลดต้นทุนได้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านพลังงาน, เนื้อที่, และระบบทำความเย็นต่างๆ. ทาง AMD รู้สึกว่ากำลังมาถูกทางที่สามารถนำเสนอสิ่งที่มีประโยชน์กว่าของตัว EPYC ซึ่งมาพร้อมขีดความสามารถของ I/O, memory bandwidth, และขนาดบรรจุของ memory. ดังนั้นทางบริษัทจึงทำออกมาทั้งหมดสามรุ่นย่อยสำหรับ single-socket SKUs ซึ่งมีมาพร้อมทางด้าน connectivity และ TDP เรทเริ่มที่ 155W-180W ที่เหมือนกัน. และทางเรายังสังเกตุอีกว่ารุ่นที่มีย่านความถี่ที่สูงที่สุด 2.4GHz เป็นรุ่น 7351P.

แต่ละรุ่นของ single socket server จะมาพร้อม 128 lanes ที่เป็น PCIe และ P2P (peer-to-peer) หรือการรองรับการใช้งานร่วมอย่างเต็มที่, ซึ่งมันจะเอื้อประโยชน์กับ GPU-ที่เป็น AI-centric architectures อย่างมาก.

ทาง AMD ได้ยกจุดเด่นๆออกมาให้เห็นหลายอย่างอาทิเช่น instructions/คำสั่งใหม่ๆและการออกแบบที่จะเอื้อต่อ งานทางด้านการจำลอง/virtualized applications เป็นอย่างมาก.

ยังไม่หมดทาง AMD ยังกล่าวถึงทางด้านสเป็คของ bandwidth สำหรับ Infinity Fabric, ซึ่งมันมีบทบาทมากในด้านการลดการดีเลย์ระหว่าง die หรือ higher-latency interconnect ที่มีประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น. ทาง AMD ได้พัฒนา 4-core Core Complexes (CCX) และเอามันมารวมกันด้วย Infinity Fabric/แผ่นปริ้นท์. ซึ่งวิธีการนี้ก็เหมือนกับชิปหลายตัวที่ถ่ายโอนกันโดย PCIe bus (multiple quad-core processors communicating). วิธีนี้หากเทียบกันตามจริงอาจจะไม่ดีกับ latency หากมีการถ่ายโอนข้อมูลระหว่าง CCX, และจะส่งผลที่ไม่ดีกับประสิทธิภาพของ VM.

Administrators/ผู้ดูแลระบบทั้งหลายออกมาให้นิยามเกี่ยวกับ SLAs (Service Level Agreements) สำหรับ virtual machines เอาไว้ว่าสำหรับประสิทธิภาพที่ไม่ค่อยคงเส้นคงวานั้นย่อมไม่ส่งผลที่ดีอย่างแน่นอน. VMs ที่มีขนาดที่ใหญ๋กว่า 4 cores มันจะกระจายไปทั่ว multiple CCX, และจะประสบกับปัญหาด้านดีเลย์หรือเพิ่ม latency ให้กับ Infinity Fabric. AMD ได้เปิดเผยสเป็คของ bandwidth ออกมาสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย/connections, ประกอบไปด้วย CCX-ไป-CCX และ socket-ไป-socket interfaces. การออกแบบมันเกี่ยวข้องกับหรือมีการเชื่อมต่อทั้งหมดสามทางจากแต่ละ CCX ไปยัง CCX ที่อยู่ข้างๆ,  โดยจะมีเส้นทางแบบต่อเชื่อมโดยตรงระหว่างทั้งสี่ core complexes. ซึ่งเพื่อให้ไปลดการแย่ง bus และปัญหาทางด้านดีเลย์ออกไปซึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับการกระโดดหรือเชื่อมต่อโดยตรงที่เกิดขึ้นซ้อนๆกันหลายๆครั้งหรือ multiple hops ระหว่าง MCM (Multi Chip Module). แน่นอนว่าวิธีนี้ยังไม่มีการทดสอบทางด้านประสิทธิภาพออกมาให้เห็นและทาง AMD ก็ยังปิดเงียบเอาไว้.

ทางด้าน Intel นั้นจะเป็น COD (Cluster on Die) ซึ่งจะมีใช้ในเฉพา่ะชิป Xeons ที่มีจำนวนแกนที่มากเพื่อแยกเส้นทางการถ่ายโอนหรือสื่อสารให้ออกอย่างชัดเจนหรือเรียกกันว่า ring buses ไปเป็น NUMA domains หรือกลุ่มที่แยกอิสระต่อกัน. สิ่งที่ทำนี้เพื่อลดการดีเลย์และเพิ่มประสิทธิภาพ. สิ่งที่น่าสนใจดูเหมือน Infinity Fabric ดูจะมีเส้นทางเชื่อมโดยตรงระหว่างแต่ละ CCX ในแต่ละ sockets. Direct CCX-to-CCX communication หรือการสื่อสารกันอย่างโดยตรงจะไปช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่มีจำกัด, ลดการซับซ้อนของการเดินทางและตารางเวลา. และดูเหมือนหากเข้าใจไม่ผิด Infinity Fabric สามารถปรับเปลียนตามสถานะได้คล่องตัวกว่ารุ่นที่แล้วซึ่งการพัฒนาครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นกว่าเดิม.

AMD ยังกล่าวเพิ่มอีกว่าทางเราได้เพิ่มความก้าวหน้าเข้าไปอีกขั้นโดย Server Controller Hub ณ ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอาศัย PCH (Platform Controller Hub) อีกต่อไป. ซึ่งแนวนี้ก็จะช่วยลดความซับซ้อนตัวเมนบอร์ดได้อีก, ลดทางด้านพลังงานและต้นทุน, และยังเอื้อต่อ single socket platforms อีกด้วย.

ดูเหมือนสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด หากดูทางด้านประสิทธิภาพแล้วน่าจะลงตัวได้ดี, แต่อย่าลืมพลังงานขับเคลื่อนทางด้านประสิทธิภาพหรือเข้าใจง่ายๆก็คือการใช้พลังงานจะเป็นตัวหลักที่ทาง data center เห็นสำคัญที่สุด. การไปเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโครงสร้างหรือตัว platforms เพื่อการลดต้นทุนระยะยาวหรือ long-term TCO/Total cost of ownership โดยการลดการใช้พลังงานแบบระยะยาวและระบบทำความเย็นให้กับระบบทั้งมวลที่ต้องการ. และแน่นอนทาง AMD มีไม้เด็ดสำหรับจัดการทางด้านใช้พลังงานของ EPYC, ซึ่งมันจะประกอบไปด้วยเทคโนโลจีของ SenseMI suite.

ทั้งหมดนี้มันช่างเป็นเทคโนโลจีที่ฟังแล้วน่าทึ่งมากแต่หากขาดทางด้านความปลอดภัยและการควบคุมให้ดีทุกอย่างก็จบ. ดูเหมือนทาง AMD จะนำเอา sandboxed ARM processor บน SoC package มาใช้เพื่อการควบคุมดูแล. ซึ่งมันจะแยกตัวเป็นอิสระจากตัวแม่หรือ host operating system/hypervisor และมาพร้อม hardware-ที่เป็น memory encryption, ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากกับกลุ่ม multi-tenancy environments

Multi-tenancy

เป็นสถาปัตยกรรมของซอฟต์แวร์ชุดหนึ่งที่สามารถบริการผู้ใช้ได้หลาย ๆ คน โดยผู้ใช้อยู่ต่างองค์กรและมีข้อกำหนดคุณสมบัติของระบบซอฟต์แวร์บางอย่างแตกต่างกันได้ (ผู้ใช้คนหนึ่ง ๆ เรียกว่าเป็นหนึ่ง Tenant) ผู้ใช้มีสิทธิที่จะปรับแก้คุณสมบัติของระบบซอฟต์แวร์บางอย่างได้ เช่น Business rules, หน้าตาสีสันของ User interface แต่ผู้ใช้ไม่ได้สิทธิ์ที่จะแก้ไขคำสั่งของระบบซอฟต์แวร์โดยตรงได้

ที่มาเครดิต/Sources:

http://www.tomshardware.com/news/amd-epyc-processor-models-pricing,34833.html

Related articles

[HOW TO] ย้ายเกม Steam จากไดรฟ์ C ไปไดรฟ์ D ง่าย ๆ ไม่เสียเวลาโหลดเกมใหม่ !!

ปัญหาหนึ่งหลายคนอาจจะเคยเจอ คือ ไดรฟ์ C ใกล้เต็มจากการลงเกม Steam แต่ไดรฟ์ D เหลือเยอะมาก...

เคลียร์ชัด! ความแตกต่างระหว่างที่ชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน VS. ข้างนอก

ในปัจจุบันเริ่มมีการหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น ทำให้เราต้องปรับตัวและทำความรู้จักกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ใครที่เลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว อีกไอเทมที่จะขาดไปไม่ได้ก็คือ ‘ที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า’ หรือ EV...

Igor’s Lab เผย การ์ดจอแพงแต่ซิลิโคนห่วย ทำให้เกิดความร้อนสูง เมื่อใช้งานนาน ๆ

เรื่องมีอยู่ว่า ก่อนหน้านี้มีผู้ร้องเรียนบนเว็บไซต์ Reddit ถึงปัญหาการ์ดจอร้อนถึง 100 องศาเซลเซียส หลังจากใช้งานมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง (ไม่ได้นานมาก เป็นหลักเดือน)...

ป้องกัน: Dell Precision 5690 โน้ตบุ๊กระดับ Workstation สเปกโหด สำหรับสายทำงานโดยเฉพาะ

ปัญหาที่พบได้บ่อย สำหรับการหาซื้อโน้ตบุ๊กมาใช้งานเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็น Adobe, AutoCAD หรือ Solidworks คือ “ความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์”...

เจาะลึก “AMD Ryzen 9000 Series” และเมนบอร์ด AM5 800 Series จากงาน AMD Tech Day

สัปดาห์ที่ผ่านมา แอดได้ไปงาน AMD Tech Day ซึ่งเขาได้เจาะลึกเทคโนโลยีของ AMD ทั้งซีพียู Ryzen,...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า