เปิดกล่อง AMD Radeon Vega Frontier Edition 16 GB HBM2 เปรียบเทียบประสิทธิภาพกับ GeForce GTX 1080

มาแล้วครั้งแรกกับการเปิดกล่องและทดสอบประสิทธิภาพ AMD Radeon Vega Frontier edition จากกลุ่มสมาชิกท่านหนึ่ง Disqus community member Klaudius (#define).  ซึ่งเป็นการ์ดที่พึ่งส่งถึงมือเค้า.

เปิดกล่องและทดสอบ AMD Radeon Vega Frontier Edition โดยกลุ่ม Disqus Community Member

AMD Radeon Vega Frontier Edition เปิดตัวออกมาตั้งแต่เมื่อวานและตอนนี้มีวางจำหน่ายแล้วตามร้านค้าทั่วไป. ทาง AMD เคาะราคาอย่างเป็นทางการเอาไว้ที่ $1000 US สำหรับรุ่นอากาศและ $1400 US สำหรับน้ำ. อาจจะกล่าวได้ว่า เคาะมาไม่ถูกและไม่ได้สร้างเพื่อเกมส์มิ่งโดยตรง. ทาง AMD ได้ออกมากล่าวย้ำหลายรอบว่าการ์ดตัวนี้มีไว้สำหรับมืออาชีพเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถขับเคลื่อนเกมส์ได้ใช้ driver พิเศษที่สามารถรองรับได้ทั้ง Radeon Pro และ Gaming Mode, ตัวการ์ดนั้นไม่ได้สร้างมาเพื่อหรืออัดประสิทธิภาพมาเพื่อเกมส์มิ่ง ผู้ใช้ที่อยู่ในกลุ่มเกมส์มิ่งคงต้องรอการ์ดรุ่น Radeon RX Vega ที่จะเปิดตัวในงาน Siggraph 2017.

เพื่อเป็นการทดสอบในตัวเกมส์หรือ playtest และปรับแต่งเกมส์ให้มันในอารมย์มากยิ่งขึ้น, Radeon™ Vega Frontier Edition สามารถปรับจากโหมด Radeon™ Pro Settings ไปยัง Radeon™ Settings โดยการคลิ๊ก ไม่กี่ครั้งในซอร์ฟแวร์-เพื่อให้ประสิทธิภาพนั้นลื่นไหลมากยิ่งขึ้นระหว่างการพัฒนาทางด้านเกมส์.

หากเลือกไปที่ “Gaming Mode” การตั้งค่าต่างๆที่เกี่ยวข้องกับทางด้านเกมส์มิ่งในตัวซอร์ฟแวร์ของ Radeon™ ก็จะมาทันที, ซึ่งจะประกอบไปด้วย Radeon™ Chill 5 และ Radeon™ WattMan 6.

นักพัฒนาทางด้านเกมส์ยังสามารถเข้าไปยัง GPUOpen.com  เพื่อสรรหาตัวช่วยในการพัฒนาเกมส์ให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับทาง AMD graphics technology ให้มากยิ่งขึ้นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มใดๆทั้งสิ้น.

สเป็คและรายละเอียด AMD Radeon Vega Frontier Edition

Radeon Vega Frontier edition ถูกวางแผนเอาไว้ว่าจะเปิดตัวในวันที 27 มิถุนายนที่ผ่านมา. ส่วนในด้านสเป็คนั้น, ตัวการ์ดมาพร้อม 4096 stream processors ทำความเร็ว clocked ที่ 1382 MHz base และ 1600 MHz boost คำนวณเร็วที่ 13 TFLOPs รูปแบบ FP32 และ 25 TFLOPs รูปแบบ FP16 compute performance.  มี 16 GB ที่เป็น HBM2 VRAM มาแบบสองชั้น (8 GB per/ต่อ stack). ค่า bandwidth เรทที่ 483 GB/s ซึ่งจะต่ำกว่า Fiji 512 GB/s. มี pixel fill rate ที่ 90 GPixels/s.

AMD Radeon Vega Frontier edition มีมาทั้งหมดสองรุ่น เวอร์ชั่นทำความเย็นด้วยน้ำ และ อีกรุ่นทำความเย็นด้วยอากาศมาพร้อมธีมสีน้ำเงินพร้อมไฟส่องสว่างอักษร“R” อยู่ตรงมุมขวาบน. เลี้ยงไฟด้วย dual 8-pin connector configuration เรทค่าพลังงานที่ TDP 300W.

ด้านเทคนิค Radeon Vega Frontier Edition 

• ขับเคลื่อนด้วย Vega architecture
• สุดที่ 25 TFLOPS รูปแบบ FP16 Compute Performance
• สุดที่ 13 TFLOPS รูปแบบ FP32 Compute Performance
• 16GB High Bandwidth Cache
• 64 Next-Gen Compute Units
• 4096 Stream Processors

เวอร์ชั่นทำความเย็นด้วยอากาศมาพร้อมธีมสีน้ำเงินทำผิวสัมผัสปัดทรายพร้อมด้่วยอักษร “R” พร้อมส่องแสงอยู่ที่มุม. ตัวการมาพร้อม dual 8-pin connectors และมี DIP switches/สวิชต์อยู่ทางด้านหลังเพื่อปรีบเปลี่ยนสีไฟส่องสว่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันที่เสียบไฟ. ตัวการ์ดมีตัวเป่าลมเพียงตัวเดียวแต่จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าหากเทียบกับ Radeon RX 480. มีขนาดความหนาที่หนากว่าหากเทียบกับ NVIDIA Titan Xp ภาคต่อขยายมี HDMI และ DP outputs สามชุด.

AMD Radeon Vega

ประสิทธิภาพและผลทดสอบ AMD Radeon Vega Frontier Edition

สำหรับการทดสอบ, Klaudius ใช้ Intel Core i7-4790K system วิ่งกับ ASUS Maximus VII Impact motherboard พร้อมด้วย 16 GB ที่เป็น DDR3 ram และ Samsung 850 EVO SSD สำหรับ Windows 10 OS. ใช้ไดรฟเวอร์ที่ปรับแต่งมาเพื่อ AMD Radeon Vega Frontier edition โดยเฉพาะที่สามารถสลับปรับเปลี่ยนเป็น Pro และ Gaming Mode.

สิ่งหนึ่งที่อยากย้ำตัวระบบนั้นใช้หม้อแปลง 550W PSU ซึ่งตรงนี้ไม่เหมาะหรืออาจจะไม่พอสำหรับการ์ดที่มีค่าพลังงานเรท TDP ที่ 300W แต่ครั้งนี้มันสามารถทำการทดสอบแบบไม่มีปัญหาแต่อาจจะมีผลกระทบต่อความเร็ว clock speeds.

สิ่งหนึ่งที่อยากย้ำอีกเรื่อง – GPU-Z นั้นยังไม่ได้อัพเกรดเป็นหรือเพื่อ Radeon Vega Frontier edition และยังไม่สามารถอ่านสเป็คได้ถูกต้องเสียเท่าไหร่. ตรงส่วนที่เป็น Micron ยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่านี้เป็น HBM2 memory ซึ่งตรงนี้ถือว่าผิด.

AMD Radeon Vega Frontier Edition กับบททดสอ 3DMark Performance/Extreme/Ultra Scores:

ณ ตอนนี้, ตัวการ์ดถูกทดสอบด้วย 3DMark Firestrike และทำคะแนนได้ 17,313 points ซึ่งเทียบเท่ากับ NVIDIA GeForce GTX 1080 graphics card. แม้กระทั้ง Maxwell ที่เป็น GeForce GTX Titan X ก็ยังเร็วกว่าหากเรานำมาเปรียบเทียบทางด้านคะแนนสำหรับการ์ดที่เป็นรุ่น reference cards ที่ใช้ GPU drivers ที่เก่ากว่า.

AMD Radeon Vega Frontier Edition SPECviewperf 12.1 Performance:

Klaudius (#define) ได้แชร์ผลทดสอบให้กับทางเราเพิ่มมากขึ้น โดยครั้งนี้ใช้ Core i7-4790K ทำ overclocked ที่ 4.4 GHz ผลที่ได้ตามด้านล่างนี้:

หากนำมาเปรียบเทียบกับ NVIDIA Quadro solutions, จะเห็นได้ว่าการ์ดนี้จะอยู่ระหว่าง Quadro M6000 (Maxwell GM200 รูปแบบเต็มๆ) รุ่นสุดท้าย และรุ่นปัจจุบัน Quadro P5000 (Pascal GP104 รูปแบบเต็มๆ). คุณสามารถนำผลลัพท์มาเปรียบเทียบ Radeon Vega FE กับการ์ดเหล่านี้ตามด้านล่าง ซึ่งทาง  HotHardware ได้โพสรายละเอียดเอาไว้สำหรับการ์ด P6000.

คาดว่าน่าจะมีการทดสอบมากกว่านี้โดยเฉพาะกับบททดสอบที่จะสะท้อนถึงประสิทธิภาพของตัวการ์ดออกมาให้ดูหลากหลายกว่านี้ในอนาคต.

ที่มาเครดิต/Sources:

http://wccftech.com/amd-radeon-vega-frontier-edition-performance-benchmarks-unboxing/