AMD Ryzen 4 Core CPU เริ่มรัวกลองรบกับ Intel i3 & i5
AMD ประกาศออกมาว่า reportedly begun ได้เริ่มทำตัวต้นแบบ 4 core, 4 thread Ryzen CPUs ออกมากันแล้ว. มาในรูปแบบ quadcores แต่ไม่ใช่หรือทำเป็น multi-threading disabled และมันจะเป็นชิปรุ่นพื้นฐานหรือ entry-level สำหรับ Ryzen processors เพื่อมารบกับ Intel’s i5 and i3 chips บนเวอร์ชั่น desktop.
สบายงบ, เต็มรูปแบบๆ Unlocked 45W Ryzen Quadcores สำหรับตลาดทั่วไป
นอกเหนือไปจากที่มันเป็นชิประดับ entry level Ryzen และและเป็น quadcore Ryzens, อย่างอื่นก็เหมือนๆกันใน Ryzen CPUs, เป็นแบบ unlocked multipliers และรองรับการทำ overclocking แบบไม่มีเงื่อนไขซึ่งจะมานั่งอยู่บน X370 และ B350 chipset AM4 motherboards. น่าจะเป็นชิปที่สนุกแน่ๆสำหรับการเล่นเกมส์ในกลุ่มนี้, หากเทียบกับ i5 และ i3 ที่มาแบบล็อคหรือ locked (จำได้ว่ามันก็ Unlocked เหมือนกันนะ).
ในด้านพลังงาน, ด้วยรูปแบบ quadcore Ryzen processors กล่าวกันว่าการใช้พลังงานยังทำได้ดีอีกด้วยอยู่ที่ประมาณ 45 watts. นอกเหนือไปจากนั้น, ชิปทั้งหมดนี้ทำ base clock speed ที่ 3.4Ghz หรือสูงกว่า. ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่าทาง AMD จะมีรุ่น 6 core และ 8 core Ryzen processors ที่เป็นแบบ simulatenous multi-threading disabled หรือไม่ใช้ หรือกลยุทธทางการตลาดจะลงมาเล่นกับตลาดล่างให้เยอะมากขึ้นกว่านี้. แต่แน่นอนคงจะไม่มี Ryzen SKU รุ่นไหนที่จะทำออกมาน้อยกว่า 4 cores แน่นอน.
Self-Overclocking CPUs – XFR, Precision Boost & Pure Play Explained
คราวนี้มาดูชิปของ AMD รุ่นท็อปสุดแปด core 16 thread Ryzen. พกอาวุธมาเพรียบพร้อมไม่ว่าจะเป็นทางด้าน multimedia และ storage แถมยังเป็น auto-overclocking พร้อมด้วย XFR, แถมพลังงานเป็นรูปแบบ dynamic power และ frequency management/การควบคุม ด้วยพลังงานที่สมบูรณ์/Pure Power และ Precision Boost/แม่นยำ. “XFR”, ย่อมาจาก Extended Frequency Range อธิบายได้ว่าจะทำการบู๊ธแบบอัตโนมัติสำหรับ clock speed ของ RYZEN CPUs และมันจะเพิ่มค่าที่ละน้อยเท่าที่จะทำได้ให้แรงขึ้นเรื่อยๆเท่าที่ขีดจำกัดของอุณภูมิที่จะสามารถทำได้โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องเลย.
และยังพ่วงมาอีกสองสิ่งที่ได้จากระบบ “XFR” ที่ผลเกี่ยวของกันและกันเรียกว่า Pure Power และ Precision Boost. Pure Power จะทำหน้าดูแลทางด้านอุณภูมิหรือ monitoring temperature, frequency/ย่านความถี่และค่าพลังงานหรือ voltage แบบเรียลไทมหรือ ณ ปัจจุบันโดยจะมีตัวเซ็นเซอร์อยู่ไปทั่ว Zen cores. เซ็นเซอร์เหล่านี้จะอ่านข้อมูลและส่งกลับไปยัง ทาง AMD เรียกมันว่า “Infinity Control Fabric” ซึ่งจะจัดการเรื่องพลังงานให้สอดคล้องกับเหคุการ์ณ ณ ปัจจุบัน. เป้าหมายก็คือการให้พลังงานที่พอเหมาะพอควรกับคำสั่งที่ถูกป้อนเข้ามาเพื่อการใช้งาน. ผลที่ได้ก็คือการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับอุณภูมิที่ไม่สูงเกินจริง.
Precision Boost จะทำหน้าที่คล้ายๆกัน. มันจะเกี่ยวเนื่องกันกับ Pure Power เพื่อที่จะได้มาซึ่งความถี่ให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กับพลังงานที่ให้มาเพียงเท่านี้. ผลที่ได้ก็คือประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องไปเปลืองพลังงานที่ไม่จำเป็น. ทั้งหมดนั้ขอกล่าวเลยว่ามันคุ้มราคากับสิ่งที่จะได้มาและการตอบสนองที่ดีขึ้นของกระบวนการทั้งหมดของตัวชิป. การเพิ่มขึ้นแต่ละครั้งมันจะค่อยเขยิบทีละ 25Mhz.
Ryzen จะวางจำหน่ายน่าจะก่อน 3 มีนาคม ที่จะถึงนี้
ต้องขอขอบคูณกับทาง Anandtech ที่ได้ให้ข้อมูลอันนี้มาเกี่ยวกับเวลาที่จะวางจำหน่าย เพราะฉนั้นใครที่กำลังรออยู๋เตรียมเก็บเงินซื้อได้เลยสำหรับ Ryzen CPU และ AM4 board.
องค์ประกอบหลักใน AM4 X370 Chipset
- รองรับการทำงานร่วมกับ M.2 SATA SSDs
- NVMe
- 4 DDR4 memory slots (dual channel DDR4)
- 24 PCIe Gen 3 lanes (จาก CPU).
16 PCIe Gen 3 lanes สำหรับกราฟฟิกและสามารถรองรับการติดตั้งได้มากถึง 3-way CrossFireX & 2-way SLI.
4 PCIe Gen 3 lanes สำหรับ storage (NVMe, SATA & PCIe storage)
4 PCIe Gen 3 สำหรับ LAN & USB3.1 Gen 2 ports. - 8 PCIe Gen 2 lanes (จาก chipset)
- 10 USB 3.1 Gen 1 ports (4 จาก CPU และ 6 จาก chipset)
- 2 USB 3.1 Gen 2 ports
- 6 USB 2 ports.
- 6 SATA3 6Gb/s ports (2 จาก CPU และ 4 จาก chipset)
ที่มาเครดิต/Sources:
http://wccftech.com/amd-launching-ryzen-gdc-2017/
You must be logged in to post a comment.