Apple เปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่คู่กับ Polaris Based Radeon Pro 450, Radeon Pro 455 และ Radeon 460 Graphics Cards พร้อมผลทดสอบ

Apple ประกาศเปิดตัว Mac Book Pro พร้อมด้วย

14nm GPUs

และก็ยังเดินตามรูปแบบเดิมของทาง Apple, ทางบริษัทยังมีอีก 3 รุ่นย่อยเป็นทางเลือกสำหรับตัว GPUs ใน MacBook Pro 15-นิ้ว ประกอบไปด้วย Radeon Pro 450, Radeon Pro 455 และ Radeon Pro 460. ทางด้านสเป็คยังไม่มีรายละเอียดออกมา แต่แน่นอนว่า 2 ใน 3 น่าจะมาจาก Polaris 11 GPU. ส่วนใน Macbook Pro 13-นิ้วจะขับเคลื่อนโดย Intel Iris Pro integrated graphics solution/แบบผสมผสาน.และน่าจะมีมาให้เลือกสองรุ่น Intel Iris Graphics 450 และ Iris Graphics 550.  ด้วยวิธีนี้หรือรูปแบบ integrated solutions/ผสมผสาน มักจะมาพร้อม DRAM-on-chip solutions ที่ไม่น่าเกิน 64 MB. ทางบริษัทยังได้เปิดเผยผลทดสอบให้ดูประสิทธิภาพทางด้านกราฟฟิก:

ผลทดสอบของทั้งสองเป็นของรุ่น 13-นิ้ว MacBook Pro และ 15-นิ้ว MacBook Pro (รุ่นท๊อปสุดทั้งคู่) คุณกำลังดูผลทดสอบข้อเปรียบเทียบระหว่าง Intel Iris Graphics 550 และ Radeon Pro 460. อยากให้โน๊ตเอาไว้ว่านี้คือผลของการนำเอา 14nm FinFET node มาใช้:

• ประสิทธิภาพทางด้าน Video Editing ที่ได้จากการใช้ Final Cut Pro X .
• ประสิทธืภาพทางด้าน Gaming (เกมส์ Grid 2 Reloaded Edition สำหรับรุ่น Macbook 15-นิ้ว และ เกมส์ Tomb Raider ในรุ่น Macbook 13-นิ้ว).
• ประสิทธิภาพทางด้าน 3D Graphics สำหรับ Autodesk และ Maya 2017.

จากผลแสดงตัวกราฟด้านบน เราได้เห็นประสิทธิภาพของ MacBook Pros ใหม่นั้นเร็วกว่ารุ่นที่แล้วใช้ได้เลยทีเดียว. สิ่งที่สะท้อนออกมาจากการนำ graphic processors เหล่านี้มาใช้ไม่อาจเรียกได้ว่าแรงมากนัก แต่ดูเหมือนจะเน้นไปยัง ประสิทธิภาพต่อวัตถ์ หรือ Performance Per Watt เสียมากว่า. เพราะตัว MBPs/megabytes per second นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเกมส์หรือ gaming, เพราะฉนั้นประสิทธิภาพทางด้านกราฟฟิกหรือ graphics solutions ที่อยู่ข้างในนั้นสะท้อนถึงจุดประสงค์ของการใช้งานของผู้ที่เป็นเจ้าของ Mac เสียมากกกว่า. แต่มันก็ยังสามารถอัพเกรดได้ในด้านประสิทธิภาพเพื่อให้เหมาะกับงานทางด้าน designers เพื่อไปตอบสนองผู้ที่จะเลือกใช้ Apple platform สำหรับเป็นตัวเชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมที่เค้าใช้อยู่

และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ AMD ถูกเลือกเข้ามาประจำการใน 15-นิ้ว MacBooksince ในด้าน GPUs ก็คือ เพราะตัว GCN นั้นมีประสิทธิภาพทางด้านพลังงานที่ดีเยี่ยมและโดยเฉพาะผ่านกระบวนการผลิตที่เป็น 14nm FinFET process ที่มีข้อบกพร่องน้อยที่สุดหรือเข้าใจอีกอย่างได้ว่ามันถึงจุดของที่สุดแล้วของกระบวนการผลิตนี้หรือมีความช่ำชองมากที่สุดแล้วและเหมาะมากที่จะนำมาใช้งานในยุคสมัยปัจจุบันที่ต้องรองรับการใช้งานทางด้านกราฟฟิกที่หนักพอสมควร.

ที่มาเครดิต

http://wccftech.com/apple-macbook-pro-2016-performance-benchmarks/