รู้จัก “Disk Defragment” ขั้นตอนสำคัญในการเพิ่มความเร็วให้กับคอมพิวเตอร์

เวลาเรารู้สึกว่าคอมทำงานช้าลง หรือมันอ่านเขียนข้อมูลไม่เร็วเหมือนเดิม เพื่อนบางคนอาจแนะนำให้เราทำการ Defrag ฮาร์ดดิสก์ แล้วมันคืออะไรกันล่ะ วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักการ Defrag ฮาร์ดดิสก์กันอีกนิด จะได้เข้าใจมันมากขึ้นนะครับ

Defrag หรือ Defragmentation ถ้าแปลตรงตัว จะหมายถึง ทำให้ไม่มี (De-) ชิ้นส่วน (Fragment) มันคือกระบวนการหนึ่งในการจัดเรียงข้อมูลบนจานแม่เหล็กของฮาร์ดดิสก์ ที่อยู่แยกกันเป็นชิ้นๆ ทั่วจานแม่เหล็ก ให้อยู่เรียงกัน หรืออยู่ใกล้กันมากขึ้นอย่างเป็นระบบครับ

เนื่องจากเวลาที่ฮาร์ดดิสก์เขียนข้อมูล มันจะวางชิ้นส่วนของข้อมูลลงบนแผ่นแม่เหล็ก ตามบล็อก หรือ Sector ที่มันเจอ ทำให้ข้อมูลมันเกิดการกระจัดกระจาย สมมุติว่าฮาร์ดดิสก์จะต้องอ่านข้อมูลทั้งหมด 2 ชิ้น แต่มันอยู่ห่างไกลกันมาก ทำให้ต้องมีการหมุนจานแม่เหล็กไปยังข้อมูลชิ้นแรก แล้วหมุนไปหาข้อมูลชิ้นที่ 2 อีก ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการอ่านข้อมูลนั่นเอง

เพราะฉะนั้น การ Defrag จะเป็นการจัดเรียงข้อมูลที่มีการจัดแบ่งเป็นชิ้นๆ ให้อยู่ใกล้กันมากขึ้น เมื่อมีการอ่านข้อมูล จะทำให้มีการอ่านข้อมูลได้รวดเร็ว บางครั้งมีการจัดการชิ้นส่วนข้อมูลขยะอื่นๆ ซึ่งทำให้เราได้พื้นที่กลับคืนมาเล็กน้อยด้วยครับ

ในเรื่องของระยะเวลาที่ควรทำการ Defrag ฮาร์ดดิสก์ ขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน หากเรามีการลงโปรแกรมใหญ่ๆ บ่อยครั้ง เช่น เกม หรือต้องทำงานร่วมกับไฟล์ขนาดใหญ่ อย่างการตัดต่อวิดีโอ ลบแล้วลงใหม่เรื่อยๆ ก็ควรทำ 1 ครั้ง ใน 1-2 สัปดาห์ ส่วนใครที่ไม่ได้ทำงานร่วมกับไฟล์ขนาดใหญ่ ทำ Defrag เดือนละครั้ง ก็ได้ครับ (ควรทำตอนว่างๆ เปิดโปรแกรม Defrag ทิ้งไว้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับไฟล์ในคอม)

ทีนี้สำหรับใครที่ใช้ SSD นะครับ ปกติจะไม่ได้รับผลกระทบจากการแบ่งข้อมูลเป็นชิ้นๆ เนื่องจากว่า SSD มันไม่มีจานหมุน แล้วข้อมูลมันถูกบรรจุลงในเซลล์หน่วยความจำ และเรียกข้อมูลออกมาได้ โดยไม่เกิดความล่าช้าจากการค้นหาชิ้นส่วนของข้อมูล เพราะฉะนั้น SSD ไม่จำเป็นต้อง Defrag นะครับ

** ตรงนี้ ผมเคยได้ยินว่าการ Defrag SSD จะส่งผลเสียต่อ SSD โดยที่เวลาเราใช้งานโปรแกรม Defrag มันจะทำให้เกิดการอ่านเขียนข้อมูลใน SSD หลายๆ ครั้ง ส่งผลให้อายุการใช้งานของ SSD สั้นลงด้วยนะครับ **

สำหรับการ Defrag ในผู้ใช้งาน Windows จะมีโปรแกรม Defragment อยู่ในส่วนของ Windows Administrative Tools ซึ่งเราสามารถเรียกใช้งานได้เลย

แต่ส่วนตัวผมขอแนะนำโปรแกรม Disk Defrag จาก Auslogics ซึ่งทำงานได้เร็วกว่า และเห็นความคืบหน้าในการทำงานของโปรแกรม (เหมือน Defragment สมัย Windows XP) สามารถดาวน์โหลดได้จากลิ้งค์นี้ครับ Auslogics Disk Defrag

 

 

Related articles

HOW TO – ไล่ล่าหา CVE ตัวแรก บน Wordfence Bug Bounty Program ทำยังไงไปดู !!

ในที่สุดหลังจากรอมานาน ตอนนี้แอดได้รับการเผยแพร่ CVE อย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้น แอดก็จะสามารถเขียนเนื้อหาได้แบบจัดเต็ม เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าไปหามายังไง และใช้แพลตฟอร์มไหนครับ แต่ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจนิยามแต่ละอย่างกันก่อน...

Review: รวมประสบการณ์สอบ Academic Cert ทุกใบ จากค่าย TCM Security !!

กว่าจะสอบผ่านตัวละตัวเลือดตาแทบกระเด็น แต่ในที่สุดแอดก็สามารถความใบเซอร์จากค่าย TCM Security ได้จนครบแล้ว !! จริง ๆ ยังเหลืออีกใบ คือ...

[HOW TO] สร้าง QR Code เพื่อแชร์ Wi-Fi ให้เพื่อนได้ง่าย ๆ บน Windows 11

สำหรับใครที่เปิดคาเฟ่, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ หรือแม้ในบ้านที่มีคนมาขอใช้ Wi-Fi เยอะ ๆ แล้วเราขี้เกียจบอกรหัสผ่านซ้ำ ๆ...

Maktar เปิดตัว “Qubii Power” หัวชาร์จอัจฉริยะที่สำรองข้อมูลได้ ! เปิดตัวครั้งแรกในไทยที่งาน Commart 2025 พร้อมกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม

บริษัท Maktar ผู้นำด้านโซลูชันการจัดเก็บและสำรองข้อมูลจากประเทศไต้หวัน เปิดตัวนวัตกรรม ใหม่ล่าสุด “Qubii Power” อย่างเป็นทางการในประเทศไทยครั้งแรกที่งาน Commart...

[Review] สอบ CRTA ใบเซอร์สาย Pentest ระดับเริ่มต้น ลดราคาจาก $99 เหลือ $9

เห็นว่ามีเพื่อน ๆ สนใจการสอบ CRTA หลายคนเลยนะครับ และไหน ๆ แอดก็สอบผ่านแล้วเดี๋ยวขอมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังสักหน่อย เผื่อใครอยากจะลองซื้อมาเรียนและเตรียมตัวสอบ...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า