สำหรับความฝันของเด็กคนหนึ่งที่อยากมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง GeoCities คือหนึ่งในเว็บโฮสติ้งยุค 90s ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และวันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักประวัติความเป็นมาของ GeoCities กันนะครับ
GeoCities ถือกำเนิดขึ้นในปี 1994 สร้างโดย David Bohnett และ John Rezner ซึ่งทั้งคู่มีแนวคิดที่จะช่วยให้ทุกคนสร้างเว็บไซต์เองได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องศึกษาการเขียนเว็บด้วยภาษา HTML ให้วุ่นวาย David และ John จึงร่วมกันก่อตั้งบริษัท Beverley Hills และจัดทำเว็บโฮสติ้งขึ้นมา เพื่อให้บริการพื้นที่สำหรับสร้างเว็บไซต์แบบฟรี ๆ !!
พื้นที่ให้บริการของ GeoCities ที่เปิดให้ใช้แบบฟรี ๆ มีขนาด 15MB ต่อ 1 แอคเคานต์ มันอาจจะดูน้อยมาก ๆ สำหรับการสร้างเว็บไซต์สมัยนี้ แต่ ณ เวลานั้นยุค 90s พื้นที่สร้างเว็บขนาด 15MB ถือว่าเพียงพอแล้ว แถมยังเปิดให้ใช้ฟรีอีก อะไรมันจะดีปานนั้น
จุดเด่นของบริการจาก GeoCities คือระบบ Web Directories ที่ออกแบบมาในลักษณะ “เพื่อนบ้าน (Neighborhood)” พูดแบบนี้เดี๋ยวจะงง ลองนึกถึงการจัดหมวดหมู่ของเว็บไซต์ Pantip ดูนะครับ คือจะมีการจัดแบ่งหมวดหมู่เป็นห้อง ๆ แต่ละห้องจะเจาะกลุ่มความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ใน GeoCities ก็เช่นเดียวกัน หมวดหมู่จะแบ่งตามจุดประสงค์ของเว็บไซต์นั้น ๆ โดยให้ผู้สร้างเว็บไซต์เลือกตั้งแต่การเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์
เป็นต้นว่าถ้าเว็บไซต์ Extreme IT สร้างขึ้นในเซิร์ฟเวอร์ของ GeoCities ก็จะต้องถูกจัดอยู่ในหมวด Silicon Valley ซึ่งภายในหมวดหมู่นี้ก็จะมีเว็บไซต์เพื่อนบ้านที่มีคอนเทนต์และจุดประสงค์ในการสร้างคล้ายกัน นั่นคือการนำเสนอเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีนั่นเองครับ
ระบบเพื่อนบ้านบน GeoCities ทำให้มันกลายเป็นแหล่ง Search Engine ขนาดย่อม ๆ บางคนที่ต้องการค้นหาข้อมูลบางอย่างอาจมุ่งตรงมาที่ GeoCities เพื่อค้นหาเว็บไซต์ตามเนื้อหาที่ต้องการได้เลย
ในช่วงหลัง ๆ GeoCities เริ่มยัดเยียดโฆษณาและแบรนด์ของตนเองให้กับสมาชิกมากเกินไป ไม่ว่าจะอยู่ในหน้าเว็บเพจไหน จะต้องมีลายน้ำของ GeoCities เกลื่อนไปหมด แถมจำนวนโฆษณาก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเรื่องของการโฆษณาแบรนด์ตนเองนะ และการฝังโฆษณาก็เป็นการทำกำไรอย่างหนึ่งของบริษัทด้วยแหละ อย่างน้อยเขาเปิดให้เราใช้ฟรี ถ้าไม่มีเม็ดเงินกลับไปมันคงอยู่ไม่ได้แหละนะ
กระทั่งในปี 2001 เว็บ Search Engine ยักษ์ใหญ่ในเวลานั้น Yahoo! ได้เข้าซื้อกิจการของ GeoCities และเริ่มปรับปรุงรูปแบบการให้บริการอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะการเพิ่มระบบเว็บไซต์พรีเมี่ยม เช่น GeoStore สำหรับทำร้านค้าออนไลน์ หรือการเพิ่มขนาดพื้นที่และปลดล็อกแบนด์วิดธ์ในการสร้างเว็บไซต์ เป็นต้น ซึ่งบริการเหล่านี้ดันไปบีบให้ GeoCities เวอร์ชันฟรีมีฟังก์ชันน้อยลง ความนิยมของผู้ใช้จึงลดลงเรื่อย ๆ
ประกอบกับการมาถึงของ MySpace – Social Network ชื่อดังในเวลานั้น เริ่มเข้ามามีบทบาทบนอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ผู้คนสามารถสร้างแอคเคานต์ของตนเอง พร้อมบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าการสร้างเว็บไซต์เสียอีก เมื่อความนิยมใน GeoCities เสื่อมลง เว็บไซต์ที่มีอยู่ก็ไม่ได้รับการอัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ เลย หนำซ้ำด้วยระบบตรวจสอบเว็บไซต์ใน Neighborhood ที่ไม่ดีพอ ทำให้การค้นหาเว็บไซต์ได้ข้อมูลไม่ตรงกับหมวดหมู่สักเท่าไร (ตัวอย่างเช่น จะค้นหาเว็บไซต์เกี่ยวกับคอม ในหมวดหมู่ Silicon Valley แต่เจอเข้ากับเว็บขายของ อะไรแบบนี้) กราฟความนิยมของ GeoCities จึงตกลงมาเรื่อย ๆ
ในวันที่ 23 เมษายน 2009 Yahoo! ประกาศเตรียมปิดให้บริการ GeoCities ให้ทุกคนเตรียมสำรองข้อมูลไว้ก่อนที่เว็บไซต์จะหายไป จนสุดท้ายบริการนี้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ตุลาคม 2009 ครับ
ต้องบอกว่าผมเองก็เพิ่งเคยได้ใช้ GeoCities หลังจากที่ Yahoo! เข้าซื้อจากบริษัท Beverley Hills ไปแล้ว ในตอนนั้นกำลังหัดสร้างเว็บไซต์ใหม่ ๆ ถือว่าเป็นหนึ่งในเว็บโฮสติ้งฟรีที่ดีเลยทีเดียว อย่างน้อยมันก็ทำให้ฝันที่ไม่กล้าฝันของผมเป็นจริงในที่สุดครับ
สำหรับใครที่มีประสบการณ์การสร้างเว็บไซต์บน GeoCities สามารถบอกเล่ากันได้ในคอมเมนต์เลยครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://thehistoryoftheweb.com/an-ode-to-geocities/
https://www.mentalfloss.com/article/525315/15-megabytes-fame-geocities-story
You must be logged in to post a comment.