GIGABYTE เปิดตัวการ์ดจอ GeForce GTX 1050 Ti and GTX 1050

GIGABYTE, ประกาศเปิดตัวการ์ดจอใหม่ GeForce GTX 1050 Ti และ GTX 1050 มาจากสายพันธ์ Pascal GP107 core architecture. พกพา 4GB ที่เป็น 128-bit GDDR5 memory, GIGABYTE GTX 1050 Ti series มาด้วยกัน 4 รุ่นย่อยในเวอร์ชั่น G1 GAMING edition, ประกอบไปด้วย WINDFORCE OC edition, dual-fan OC edition/พัดลมคู่, และ single-fan D5 edition/พัดลมเดี่ยว. ส่วน GTX 1050 lineup ก็จะมี 2GB ที่เป็น GDDR5 memory และมาด้วยกัน 4 รุ่นย่อยเช่นกัน. ทั้งหมดนี้สร้างมาเพื่อเกมส์เมอร์โดยเฉพาะ พร้อมที่จะมารองรับบรรดาผู้สร้างคอมด้วยตัวเอง มีมาให้เลือกหลายรูปแบบ เอาให้เหมาะ ด้วยราคาที่ไม่โหดสบายกระเป๋า.

ขับเคลื่อนด้วย Super Overclocked GPU,  G1 GAMING edition นั้นขึ้นชื่อทางด้านความแรงและแรงตั้งแต่อยู่ในกล่อง มีการทำ overclocks มาให้เสร็จ, พร้อมด้วยระบบทำความเย็นรุ่น WINDFORCE cooling และระบบไฟ RGB Illumination สำหรับเกมส์เมอร์ทั้งหลายที่ไม่ชอบความจำเจ และชอบของแรงๆ. ด้วยจุดเด่นของ GIGABYTE’s GPU Gauntlet Sorting technology, ตัว GPU cores ที่ออกแบบมาใน G1 GAMING cards สามารถทำ overclocking ได้เกินตัวโดยที่ไม่ทำอันตรายต่อระบบใดๆทั้งสิ้น มั่นใจได้. ใช้ชิ้นส่วนและองค์ประกอบที่ทนทาน ระบบไฟออกแบบมาเป็น 4+1 phase design ทำให้สวิชต์ MOSFET นั้นทำงานโดยมีอุณภูมิที่ไม่สูง พลังงานไม่กระชากเอื้อต่อการทำ overclocking.

ระบบทำความเย็นรุ่น WINDFORCE 2X cooling system มาพร้อมพัดลมขนาด 90mm 2 ตัว ทำรอบหมุนทิศทางสลับกันพร้อมด้วยใบพัดที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ พร้อมด้วยแท่งสื่อความร้อนวัสดุทองแดง 2 แท่ง/copper heat pipes ที่มีจุดสัมผัสโดยตรงกับ GPU, ทำให้ตัวการ์ดทำงานได้เงียบขึ้นและเย็นแม้กระทั่งยามอยู่ในดหมด overclocked. พัดลมจะถูกควบคุมหากอยู่ในโหมดที่ไม่สาหัสนักในเกมส์มิ่ง; มีไฟ LED อยู่ที่พัดลมบอกถึงสถานะ ไม่ใช้จอในการแสดงแทน.

G1 GAMING cards นั้นมาพร้อมระบบไฟ RGB และมีลูกเล่นหรือจังหวะไฟมาให้เลือกโดยผ่านทาง XTREME Engine utility software. ด้านหลังการ์ด, มาพร้อมแผ่นปิดวัสดุเป็นเหล็กมีหน้าที่เพื่อป้องกันตัวการ์ดจอ. ทางด้าน output หรือส่วนต่อขยาย, ตัวการ์ดมี 3 HDMI ports และ DVI-D port และ DisplayPort ให้ความสะดวกสบายในการต่อเชื่อมแบบ multi-display connectivity/หลายจอ.

GTX 1050 Ti / GTX 1050 WINDFORCE OC
มาพร้อมแผ่นปิดการ์ดจอด้านหลัง, รูปทรงเงางามในรุ่น WINDFORCE OC edition พร้อมการทำงานที่เงียบด้วยระบบ WINDFORCE 2X cooling system, มาพร้อมระบบทำความเย็นรูปแบบ semi-passive พร้อมพัดลม 2 ตัวขนาด 90mm, แท่งสื่อความร้อนวัสดุทองแดงมีจุดสัมผัสโดยตรงกับตัว GPU, พร้อมการออกแบบใบพัดเป็นพิเศษ. ทำรอบหมุนของพัดลมคนละทิศเพื่อเพิ่มการถ่ายเทอากาศและลดอาการแรงต้านลม.

ตัวการ์ดใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์คุณภาพสูงคงทน ระบบไฟออกแบบมาเป็น 4+1 phase design ทำให้ตัวสวิชต์ MOSFET ทำงานได้เต็มที่อุณภูมิน้อย ประสิทธิภาพในด้านพลังงานเดินเรียบไม่กระชากเอื้อต่อการทำ overclocking. มาพร้อมตัวซอร์ฟแวร์ หรือ XTREME Engine utility, เกมส์เมอร์สามารถเพิ่มขีดความสามารถตัวการ์ดได้เพียงแค่ คลิ๊กเดียว เพื่อทำ overclock โดยไม่ต้องไปปวดหัวกับหลายๆคลิ๊ก. ส่วนต่อขยายมี 3 HDMI ports รองรับการต่อเชื่อมแบบ multi-display configurations.

GTX 1050 Ti / GTX 1050 OC
ประสิทธิภาพที่สามารถสั่งได้แต่ใช้พลังงานที่ต่ำ, ในรุ่น OC edition ประสิทธิภาพในการเร่งเครื่องหรือ boost ในตัวการ์ดทำได้โดยที่ไม่ต้องการต่อสายพลังงานเพิ่ม. มาพร้อมระบบทำความเย็น WINDFORCE 2X cooling system, พัดลมคู่ขนาด 80mm ใบพัดออกแบบมาเป็นพิเศษ, และยังเป็น  semi-passive cooling/แบบผสมผสาน เพื่อให้ความมั่นใจว่าผู้ใช้ยามอยู่ในโหมดเกมส์ที่ไม่สาหัส สามารถใช้เครื่องได้โดยที่พัดลมปิดการทำงานอยู่ระบบจะเงียบสนิท.

GTX 1050 Ti / GTX 1050 D5
หากหาการ์ดที่ใช้พลังงานอย่างประหยัดต้องรุ่น D5 edition และไม่ต้องการต่อเชื่อมพลังงานจากภายนอกเพิ่ม, สามารถทำ overclocked ได้แรงกว่า reference design/มาจากทางฝั่งเขียว. ทำความเย็นด้วย custom-designed พัดลมขนาด 90mm, และอาศัยตัวคลอบที่มีช่องระบายอากาศออกแบบมาอย่างดีในด้านการระบายอากาศแถบตัวฐานทำด้วยวัสดุอลูมิเนียมช่วยกันกระจายความร้อนอีกทีออกจากตัว GPU ทั้งหมดนี้สามารถทำให้ตัวพัดลมมีรอบหมุนที่ต่ำและเงียบ. ตัวพัดลมยังถูกกำหนดให้ทำงานเบาๆหากอยู่ในโหมด idle/ใช้งานปรกติหรือ sleep mode.

ที่มาเครดิต

https://www.techpowerup.com/226920/gigabyte-announces-its-geforce-gtx-1050-series