พลังดิบยังจำเป็นอยู่ไหม? เมื่อการ์ดจอยุคใหม่ใช้เทคโนโลยี AI เพิ่มประสิทธิภาพกันมากขึ้น

ช่วงหลัง ๆ นี้เราพูดถึงเรื่อง Upscaling กันมากขึ้น ด้วยการมาถึงของ AI ที่ช่วยเพิ่มความละเอียดให้กราฟิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในวงการคอมพิวเตอร์ที่ AI Upscaling มีบทบาทต่อการเลือกการ์ดจอมากขึ้น จนกลายเป็นคำถามว่า “แล้วพลังดิบยังจำเป็นอยู่ไหม”

AI upscaling คืออะไร

AI upscaling คือเทคโนโลยีที่ใช้ในการเติมพิกเซลให้กับภาพ เพื่อเพิ่มความคมชัดให้กับภาพที่มีความละเอียดต่ำ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้ร่วมกับการ์ดจอเพื่อการเล่นเกมในปัจจุบัน เพื่อให้ได้เฟรมเรตสูงขึ้นนั่นเองครับ

โดยกลไกของ AI upscaling นั้น ภาพในเกมจะถูกเรนเดอร์ที่ความละเอียดต่ำก่อน เช่น 720p จากนั้นฟีเจอร์นี้จะเติมพิกเซลและอัปความละเอียดภาพให้สูงขึ้น เพื่อใช้งานร่วมกับจอความละเอียดสูง เช่น อัปเป็น 1080p หรือ 1440p แทนที่เราจะได้ภาพแตก ๆ ของ 720p มาเล่นบนจอ 2K เราก็ได้ภาพ 1440p มาเล่นบนจอ 2K แต่เฟรมเรตสูงพอ ๆ กับภาพ 720p นั่นเองครับ

AI แต่ละตัวไม่เหมือนกัน

การ์ดจอทั้ง 3 ค่าย คือ NVIDIA, AMD และ Intel ต่างมีเทคโนโลยี AI upscaling เป็นของตัวเองทั้งนั้น คือ DLSS, FSR และ XeSS ตามลำดับ โดย DLSS จะใช้ได้เฉพาะการ์ดจอ NVIDIA ส่วน FSR และ XeSS ใช้ได้กับทุกค่าย และ AI upscaling ก็จะใช้เทคโนโลยีภายในที่แตกต่างกันไปครับ

นอกจากนี้ยังมีการผสานเทคโนโลยีอื่น ๆ เพิ่มเข้าไป เพื่อให้เฟรมเรตเพิ่มสูงขึ้นไปอีก อย่าง DLSS จะตีคู่กับ Frame generation ที่เป็นการเติมเฟรมด้วย AI ให้กับภาพในเกม เติมเฟรมเข้าไปก็ได้เฟรมเรตเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนทาง AMD FSR ก็จะมี Fluid Motion Frames ครับ

ในขณะที่ Intel XeSS ตอนนี้ยังไม่มีเทคโนโลยี Frame generation แต่เห็นว่ากำลังพัฒนาอยู่เดี๋ยวอีกสักพักน่าจะอัปเดตออกมาให้ใช้ได้ครับ

ทำไม AI ถึงชนะพลังดิบ

ในอดีตก่อนที่จะมีเทคโนโลยีด้าน AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การ์ดจอ ตอนนั้นเราเน้นพลังดิบกันหนัก ๆ เลย แต่กลับพบปัญหาที่ว่า พอต้องพยายามดันความแรงของการ์ดจอให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นการเพิ่มทั้งราคาและการกินไฟให้การ์ดจอมากขึ้นไปอีก

นี่ยังไม่รวมถึงยุคที่มี SLI หรือ Crossfire ซึ่งเป็นการนำการ์ดจอ 2 ตัวขึ้นไปมาเชื่อมต่อให้ทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มความแรงในการประมวลผลกราฟิก ยิ่งทำให้กินไฟเยอะและเกิดความร้อนในระบบเยอะขึ้นครับ

ในขณะเดียวกัน เกมในยุคปัจจุบันทำกราฟิกอลังการมาก ๆ ผสมกับความละเอียดจอแสดงผลที่เพิ่มสูงขึ้น ยกตัวอย่างการเล่นเกม Cyberpunk 2077 ความละเอียด 4K Ultra พอจับคู่กับการ์ดจอที่แรงที่สุดอย่าง RTX 4090 ก็ยังปั่นเฟรมเรตได้ยากครับ แต่ถ้าเปิด DLSS คู่กับ Frame Generation แล้ว ก็สามารถเล่นได้อย่างสบาย ๆ จากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

จากตรงนี้จะเห็นได้ว่า ถ้าอยากให้นักพัฒนาเกมสร้างเกมได้แบบจัดเต็ม แต่การ์ดจอยังสามารถรันได้แบบสบาย ๆ การทำการ์ดจอตัวแรง ๆ ที่เน้นเฉพาะพลังดิบก็อาจจะไม่เพียงพอแล้วครับ ต้องพึ่งพา AI เข้ามาช่วย

ช่วยชีวิตเครื่องเล่นเกมคอนโซล

สำหรับกลุ่มที่ได้ผลประโยชน์จาก AI upscaling อย่างมาก คือ กลุ่มเครื่องเล่นเกมคอนโซล ด้วยข้อจำกัดของสเปกที่ไม่สามารถอัปเกรดได้เหมือนคอมเครื่องใหญ่ การ์ดจอที่ติดตั้งมาก็เป็นรุ่นระดับกลาง ๆ ถึงล่าง ทำให้การเล่นเกมที่กินกราฟิกสูง ๆ ค่อนข้างลำบาก อาศัยพลังดิบอย่างเดียวไม่เพียงพอแน่นอน

การมาถึงของเทคโนโลยีด้าน AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การ์ดจอระดับกลางถึงล่างเหล่านี้ให้เล่นเกมได้ดีขึ้น ทำให้เกมกินสเปกสูง ๆ แม้กระทั่ง Wukong หรือ Elden Ring ก็รันในเครื่องเล่นเกมคอนโซลได้ง่ายครับ

และนี่คือจุดเด่นที่สำคัญของเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้การ์ดจอ แล้วคุณคิดว่ายุคนี้ถึงเวลาของ AI แล้วหรือยัง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก PC World