[เรื่องน่ารู้] ความเป็นมาของ CTRL+ALT+Delete ปุ่มแก้ปัญหาสารพัดนึก

ถ้าใครเคยผ่านยุคเก่า ที่คอมพิวเตอร์มักจะแฮงก์อยู่บ่อยๆ หรือใครที่อยากล็อกอินเข้าคอมคนอื่นๆ โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่าน เพียงแค่กดคีย์ CTRL+ALT+Delete ก็สามารถทำได้แล้ว

แต่ใครรู้บ้างว่าทำไมต้องเป็นปุ่ม CTRL+ALT+Delete

ย้อนกลับไปอีกเมื่อปี 1980 Dr. Dave Bradley ผู้ออกแบบ BIOS ให้กับคอมพิวเตอร์ของ IBM พบว่าคอมพิวเตอร์ในยุคนั้น มักประสบปัญหาเครื่องแฮงก์อยู่บ่อยครั้ง และวิธีแก้คือการปิดเครื่อง ทิ้งไว้สักพัก แล้วเปิดใหม่ ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างยุ่งยาก แล้วยิ่งสมัยนั้นคอมมักจะแฮงก์ทุกๆ 5-10 นาที การปิดเครื่อง-เปิดใหม่ ไม่ใช่ความคิดที่ดีเอาเสียเลย

ดังนั้น Dr. Dave Bradley ก็เลยได้มีแนวคิดที่จะแก้ปัญหาคอมแฮงก์ โดยการใช้ปุ่มบนคีย์บอร์ด ซึ่งตอนแรกเขาคิดที่จะจัดปุ่ม Reset ลงไป แต่ผู้ใช้อาจไปโดนมันโดยไม่ตั้งใจ ทำให้คอมดับและข้อมูลอาจสูญหายในระหว่างทำงานได้

สุดท้าย เขาก็ปิ๊งไอเดีย ให้มีการกดปุ่มทั้งหมด 3 ปุ่ม ได้แก่ CTRL, ALT ทางซ้ายมือ และปุ่ม Delete ทางขวามือ ซึ่งจะช่วยป้องกันการกดโดนโดยบังเอิญ และยังให้ความรวดเร็วในการจัดการกับปัญหาคอมแฮงก์ได้อย่างรวดเร็ว

ในตอนแรกมันยังไม่เป็นที่นิยมสักเท่าไร จนกระทั่งในวันครบรอบ 20 ปี ของ IBM CTRL+ALT+Delete กลายเป็น pop culture ของคอมพิวเตอร์ตั้งแต่นั้นมา

แถมให้อีกนิดนึง สำหรับปุ่ม CTRL+ALT+Delete มีคนไม่เห็นด้วย หนึ่งในนั้นคือ Bill Gates ผู้ก่อตั้ง Microsoft เขาบอกว่ามันเป็นความคิดที่แย่ และไม่เข้าใจว่า Bradley ทำไมถึงไม่ทำให้มีเพียงแค่ปุ่มเดียว