รีวิว HUAWEI nova 4 สเปคเรือธง หน้าจอแบบ Punch Display ตัวแรกของไทย พร้อมเลนส์ Ultra Wide

HUAWEI nova 4 สมาร์ทโฟนรุ่นแรกกับนวัตกรรม Punch Display ที่มีเจาะรูไว้ตรงมุมจอเล็กมากๆ ไม่บดบังการใช้งาน ช่วยเพิ่มอรรรถในการชมได้มากขึ้น ซึ่งภายในรูบนจอจะมีกล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล ซ่อนอยู่ภายใน สเปคที่ให้มาเรียกว่าจัดเต็มจริงๆ กับค่าตัวเพียง 16,990 บาท เดี๋ยวเราไปดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปเลยไปครับ

หน้าจอแสดงผล

จุดเด่นของ HUAWEI nova 4 อันดับแรกคือหน้าจอแบบ Punch Display เป็นรุ่นแรกที่วางขายในบ้านเรา เป็นการเจาะรูบนหน้าจอเพื่อวางตำแหน่งกล้องหน้า ขนาดของรูบนหน้าจอมีขนาดเล็กมาก ทำให้พื้นที่บนหน้าจอเหลือพื้นที่ใช้งานเยอะขึ้น ไม่บดบังเวลามองใช้งาน ขอบด้านข้างทั้งสี่ด้านเหลือพื้นที่น้อยมากๆโดยเฉพาะขอบจอด้านบนแทบจะไร้ขอบจอเลย

ขอบจอด้านบนที่มีพื้นที่น้อยมากๆทำให้การวางตำแหน่งเซนเซอร์ต่างๆได้ถูกย้ายออกไปโดยเฉพาะ Proximity Senser จะย้ายไปอยู่ด้านบนตัวเครื่อง วัดระยะแบบมุมเข้าหาตัวเรา เท่าที่ผมใช้งานมาวัดแสงได้แม่นยำดีครับ ส่วนเซนเซอร์ Light Senser จะแอบอยู่บนขอบจอ

ลำโพงสนทนาที่ใช้พื้นที่น้อยมากแต่ให้เสียงที่ชัดเจนดี ภายในลำโพงยังแอบซ่อนไฟแสดงสถานะไว้อีก สามารถแสดงผลได้ทั้งหมด 3 สี เนื่องจากทาง HUAWEI nova 4 พยายามที่จะทำให้มีขอบจอให้น้อยสุดแต่ก็ใส่เทคโนโลยีมาให้ครบแบบนี้ถือว่าใช้พื้นที่ได้คุ้มจริงๆ

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

HUAWEI nova 4 ที่ผมรีวิวจะเป็นสีฟ้า Crush Blue ด้านหลังจะเป็นกระจกแบบ 3D เน้นความโค้งมนดูสวยงามและยังหยิบจับใช้งานง่าย ตัวเครื่องมีการไล่เฉดสี สวยหรูดูดีจริง

ด้านหลังจะประกอบไปด้วยกล้องหลัง 3 ตัว แบบ AI Triple Camera และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ด้านล่างของตัวเครื่องจะมี ไมค์สนทนา / พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวเครื่อง

ด้านขวาจะมีปุ่ม power และปุ่มปรับระดับเสียง

ด้านบนจะมาพร้อมกับไมค์ตัดสียงรบกวน / Proximity Senser และ ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

ฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งของถาดซิมการ์ด รองรับ micro sim ทั้งสองช่อง (ไม่รองรับ NM Card)

ขนาดตัวเครื่องเมื่อถือใช้งาน 157×75.1×7.77 มม. น้ำหนัก 172 กรัม

ระบบปฎิบัติการ

HUAWEI nova 4 มาพร้อมกับ Android 9.0 ครอบทับด้วย EMUI 9.0.1 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ทำงานได้ไหลลื่นยิ่งขึ้น มีการจัดการที่ดีและนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการประมวลผล ฟีเจอร์ต่างๆมีมาให้ครบเช่นเดิม

การแบ่งหน้าจอใช้งาน / แอปคู่ และธีมสวยๆมีมาให้เช่นเดิม

Huawei Share เป็นอีกฟังก์ชั่นที่คนใช้ Huawei น่าจะชอบ เพราะสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วมากๆ สำหรับ HUAWEI nova 4 จะถูกพัฒนาเป็น Huawei Share 2.0 แล้วนะครับ

ฟังก์ชั่นพิเศษในการปรับตั้งค่า เช่น ปรับขอบจอให้ดำ / การสลับหรือซ่อนตำแหน่งปุ่มนำทาง และโหมดปาร์ตี้ก็มีมาให้ใช้งานด้วยเช่นเดิม

ประสิทธิภาพการทำงาน

HUAWEI nova 4 มาพร้อมกับชิปประมวลผล HUAWEI Kirin 970 Octa-Core 4 x Cortex-A73 Based 2.36 GHz + 4 x Cortex-A53 Based 1.8 GHz / GPU Mali-G72 พร้อม GPU Turbo 2.0 ชิปประมวลผลชุดนี้ถือว่าแรงมาก สามารถเล่นเกมส์ปรับความละเอียดสูงสุดได้เลย

หน่วยความจำ RAM 8 GB / ROM UFS2.1 ขนาด 128 GB

กล้อง

กล้องหน้า ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล พร้อม AI beauty สามารถจดจำฉากได้ 8 รูปแบบ (ภาพท้องฟ้า, พืช, ดอกไม้, ชายหาด, หิมะ, กลางคืน, ในห้อง และการแสดงบนเวที) สามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้

กล้องหลัง 3 ตัว แบบ AI Triple Camera ที่มีโหมด Super Night สำหรับถ่ายในที่แสงน้อยและเลนส์ ultra wide-angle สำหรับถ่ายวิวทิวทัศน์หรือภาพกลุ่มขนาดใหญ่

เป็นรุ่นแรกในตระกูล nova ที่มาพร้อมกับเลนส์ ultra wide-angle มุมกว้างถึง 117 องศา เก็บภาพได้กว้างกว่าและดูสวยกว่าสำหรับถ่ายภาพวิวทิวทัศน์หรือภาพกลุ่มขนาดใหญ่

ภาพถ่ายจากโหมด ultra wide-angle

โหมด Super Night จะช่วยเก็บรายละเอียดของภาพในตอนกลางคืนให้สวยยิ่งขึ้น (ภาพจากโหมด Super Night)

เปิดระบบ Master AI

ภาพถ่ายจากการเปิด AI

คุณสมบัติพิเศษ

ระบบความปลอดภัย จะมีทั้งสแกนลายนิ้วมือและปลดล้อคหน้าจอด้วยใบหน้า

ตัวเครื่องรองรับ Dual 4G / Dual VoLTE และ WiFi 5.0

ส่วนของหน้าจอ สามารถปิดขอบหน้าจอได้และยังสลับตำแหน่งของปุ่มนำทางได้เช่นกัน

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ที่ให้มา 3750 mAh รองรับการชาร์จไว 9V/2A 18W เท่าที่ผมใช้งานมาต้องบอกเลยว่าแบตอึดมากๆ เก็บภาพเกือบทั้งวันแบตยังไม่หมด แบตอึดชาร์จไวใครๆก็ชอบ

สรุปการใช้งาน

HUAWEI nova 4 ได้อัดสเปคและฟีเจอร์ต่างๆระดับเรือธงมาให้ใช้งานแต่ค่าตัวกลับถูกลงมามาก กล้องหน้าและหลังที่ทำผลงานได้ดีมากๆ ถ่ายรูปง่ายด้วย AI เข้ามาช่วยไม่ว่าใครๆก็จะสามารถถ่ายรุปสวยได้เช่นกัน หน้าจอแบบใหม่ Punch Display ทำให้พื้นที่การใช้งานเยอะขึ้นและไม่บดบังเวลาใช้งาน และตัวเครื่องที่ออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่ดีทำให้เราอยากใช้งาน 16,990 บาท กับเทคโนโลยีที่ให้มาถือว่าคุ้มแล้วครับ

*** สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้