Intel เผยข้อมูล 10nm+ Ice lake series ที่เป็น CPU

คงมีหลายคนไม่น้อยที่รอการมาของ Intel desktop CPUs รุ่นที่แปด Coffee Lake. ทางเราก็เช่นกัน-หากย้อนไปเมื่อครั้งที่ Intel ขยับเข้าไปถึง 14nm เทคโนโลจี, ตัวแรกที่ทำออกมาก็คือ Broadwell, ถัดมาก็เป็น Skylake และตอนนี้ Kaby Lake. และอีกไม่นาน 14nm ก็จะขยับไปอีกรุ่นที่มาพร้อมจำนวนแกนที่มีมากยิ่งขึ้นเพื่อใช้ใน desktop platforms และอีกเพียงอีกไม่กี่อึดใจก็จะขับเคลื่อนตลาด PC ทั่วไปไปยังอีกยุคสมัยใหม่ที่จะหันหลังให้กับ Quad-core.

เรากำลังกล่าวถึง Intel CPUs รุ่นที่เก้าซึ่งจะมาพร้อมสถาปัตยกรรมใหม่ Ice Lake CPU architecture, ประสิทธิภาพของมันจะก้าวหน้าไปอีกขั้นโดยเฉพาะทางด้าน IPC และจะใช้กระบวนการผลิตรูปแบบใหม่ 10nm+. ณ ตอนนี้ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่นอนว่าจะเห็นมันเมื่อไหร่แต่คาดเดาเอาไว้ว่าไม่น่าเกินไตรมาสที่สองของปี 2018.

ทาง Intel ประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่าจะขยับไปหาเทคโนโลจีกระบวนการผลิตรูปแบบใหม่ 10nm, ซึ่งก็หมายความว่าทาง บริษัทพร้อมแล้วที่จะอัดตัวทรานซ์ซิสเตอร์เข้าไปเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นสองเท่าหากเทียบกับที่ทำกัน ณ ปัจจุบันและจะมาแข่งกับคู่แข่งที่เป็น “10nm” manufacturing nodes ด้วยเช่นกัน.

นี้จะเป็นเจเนเรชั่นที่สาม FinFET manufacturing node/กระบวนการผลิตตัวโนดขึ้นมาและเป็น 10nm design ของจริง, หากเทียบกับทาง TSMC ที่จะเริ่มใช้กระบวนการผลิตใหม่เช่นกันและเป็น 10nm process แต่มันก็หาใช่ไม่ที่เป็น 10nm ของจริง”. เหตุเพราะว่าไม่มีหรือมาตรวัดขนาดนั้นไม่ได้มาตรฐานนั้นเองสำหรับกระบวนการผลิตโนดที่แท้จริง/manufacturing node.

ทุกวันนี้, บรรดาล็ป fabs ต่างๆก็ใช้ ??nm เพื่อมาอ้างในการทำตลาด, แต่ก็หาใช่ไม่เพราะขนาดนั้นมันไม่สามารถสัมผัสได้จริงและไม่ได้มาตรฐานหากอ้างถึงกระบวนการผลิตเจ้าอื่นๆ, ไม่แปลกใจว่าทำไมทาง TSMC ถึงออกมากล่าวอ้างว่า ณ ตอนนี้ทางโรงงานใช้เทคโนโลจีการผลิตรูปแบบ 16nm FinFET node 12nm, หากนำมาวัดขนาดกันจริง-ตอบได้เลยว่าขนาดนั้นไม่ได้เปลี่ยนหรือมีขนาดที่เล็กไปกว่าเดิม.

ณ ตอนนี้ Intel เป็นแล็ป Fab แห่งเดียวที่สามารถพูดได้เต็มปากว่าใช้ขนาดหรือสเกลที่แท้จริงสำหรับกระบวนการผลิต node, และเป็นกระบวนการผลิตที่ทันสมัยรวมถึงเทคโนโลจีที่จับต้องได้อย่างแท้จริงสำหรับขอบเขตการวางหรือเรียงตัวทรานซ์ซิสเตอร์ต่อหน่วยหรือต่อหนึ่งตัวโนด.

และสำหรับ Ice Lake นี้จะเป็นเจเนเรชั่นที่สองเสียด้วยซ้ำสำหรับ 10nm node, แล้วเจเนเรชั่นแรกหล่ะไปไหน. สำหรับรุ่นแรกในกระบวนการผลิตแบบ 10nm นั้นทางบริษัทให้เหตุผลว่า ประสิทธิภาพของตัวสินค้าไม่เป็นตามคาดที่คาดหวังเอาไว้, อาจจะเป็นเพราะว่า node รุ่นแรกให้ประสิทธิภาพมาแค่ 25% ดีมากขึ้นหากเทียบกับ 14nm หรือการดึงพลังงานนั้นต่ำกว่าเพียงแค่ 45% เท่านั้น. ซึ่งหากเทียบกับ 14nm++, หากเทียบกับรุ่นที่สามใน 14nm node,ประสิทธิภาพนั้นมันดีมากขึ้นถึง 26% หรือการดึงพลังงานทำได้ดีมากขึ้นซึ่งลดน้อยลงมาถึง 26% หากเทียบกับ 14nm.

สรุปได้ว่า ณ ตอนนี้ทาง Intel สนใจ 14nm++ มากกว่า, ซึ่งหากเทียบกับ 10nm ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะดีมากจนเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนหากเทียบกับ 14nm++, ซึ่งจะได้ตัว node ที่มีอนาคตที่สดใสกว่าและในแง่ของกำลังการผลิตอีกด้วย. สำหรับความตั้งใจของ Intel 10nm และกระบวนการผลิตนี้ คาดว่าจะนำไปใช้กับสินค้าที่มีขนาดที่เล็กและการใช้พลังงานที่ต่ำ, แต่อาจจะไม่เหมาะกับสินค้าระดับ high-end.

ณ ตอนนี้ทาง Intel มีกระบวนการผลิตรูปแบบ 10nm+ node, ซึ่งสามารถผลิตและมีประสิทธิภาพมากกว่าถึง 15% หากเทียบกับ 10nm, แถมด้วยการดึงพลังงานที่ลดน้อยลงถึงอีก 30%, และสรุปได้ว่ามันมากพอที่จะมาแทนที่ 14nm++.

Ice Lake ยังคงอีกนานที่จะมาถึง, แต่มันจะเป็นและใช้กระบวนการผลิตที่ทันสมัยพร้อมทั้งเทคโนโลจีที่ล้ำสมัยและมันจะเป็น process node แรกที่มีความก้าวหน้าและเยี่ยมยอดที่สุดเท่าที่เคยมีการทำกันมา, และมันจะส่งผลให้ทางบริษัทได้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน ประสิทธิภาพของตัวสินค้า ด้านการผลิตและผลประกอบการของทางบริษัท ซึ่งจะส่งผลโดยตรงให้กับทางบริษัทไปอีกนานทีเดียว/yield.

ที่มาเครดิต/Sources:

https://www.overclock3d.net/news/cpu_mainboard/intel_releases_information_about_their_10nm_ice_lake_series_of_cpus/1