เบื้องลึก SMT และ power-management ของ Intel “Kaby Lake” และ AMD “ZEN” ที่เกี่ยวข้องกับ Windows 10
เมื่อเร็วๆนี้ทาง Microsoft ออกมาเขย่าวงการทางด้านพีซีอีกครั้งถึงตัว CPU architectures ที่กำลังจะออกจากทาง Intel และ AMD ว่า Windows 10 เท่านั้นที่สามารถคบหากันได้, ด้วยคำที่กล่าวออกมาว่า รองรับ”support” และ ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้/not “compatibility.” ซึ่งมันแปลตรงตัวเลยว่าต้อง Intel “Kaby Lake” และ AMD “ZEN” เท่านั้นถึงจะคบหากับ Windows 10 ได้(และในระดับบรฺิษัทที่เป็นองค์กรใหญ่นั้นก็คงจะต้องเป็น Windows Server 2016 เช่นกัน, อ้างอิงจาก NT 10 kernel) ซึ่งจะเป็น Windows ที่เก่ากว่านี้ไม่ได้. จริงๆแล้วตัว processors นั้นสามารถทำงานร่วมกับรุ่นไหนก็ได้ที่เป็น x86 operating system , Windows หรือ *nix, 32-bit หรือ 64-bit. ทาง HotHardware ได้ทำการขุดคุ้ยถึงเหตุที่มีการตัดสินใจเช่นนี้.
จริงๆแล้ว เจ้าตัว power-management และ SMT ใหม่นี้แหล่ะที่เป็นต้นเหตุ. หากเป็น “Kaby Lake” microarchitecture, ทาง Intel ได้ออกมานำเสนอถึงตัว power-management ใหม่นี้ที่เรียกกันว่า Speed Shift Technology. มันจะมาช่วยให้ตัว processor ปรับค่าความเร็ว clock-speed เพื่อให้ทันกับ processing loads/การประมวลผล ในเวลาที่ตอบสนองทันที่/response time 15 ms. ซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของ OS-level ที่กำหนดเอาไว้, จึงทำให้ on-die power-management components/ส่วนที่อยู่บน สามารถประหยัดหรือตัดเวลาได้สำหรับการประมวลผล/processing loads ไม่ว่าจะเพิ่มหรือลด clock-speeds ได้ 66.66 times/เท่าของแต่ละวินาที, โดยที่ไม่ไปกระทบต่อต้นทุน CPU cost. ส่วนของ ZEN microarchitecture ได้เปิดเผยออกมาว่า, ทาง AMD ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากกันมากมาย
AMD “ZEN” processors ได้นำเสนอ simultaneous multi-threading/การส่ง Thread หรือ งานจำนวน 2 งานให้กับคอร์แต่ล่ะคอร์ของซีพียูได้พร้อมๆกัน ทำให้ซีพียูสามารถประมวลผลแบบ Multi-Threading ได้ดีขึ้น. ส่วนทาง Intel ก็ไม่แต่งต่างกันกับตัว SMT แต่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า HyperThreading Technology (HTT), ซึ่งเทคนิคนี้ถูกนำมาใช้สิบปีมาแล้ว. แต่ทาง AMD’s SMT นั้นจะแตกต่างกว่าหน่อยจาก HyperThreading, เพราะยังต้องอาศัยตัวช่วยจาก OS kernel และการสั่งการตามเวลาที่กำหนด. หากคุณจำได้ว่าทาง Microsoft ก็ยังต้องมีการอัพเดทตัว kernel และ scheduler ของ Windows 7 เช่นเดียวกัน, เพื่อที่จะไปอัดกับ”Bulldozer.”
และด้วยเหตุผลนี้ที่ทาง HotHardware ได้เปิดประเด็นมาสามารถตอบได้ว่าทำไม CPU microarchitectures รุ่นใหม่ๆที่กำลังจะออกมาถึงต้องใช้ Windows 10.
ที่มาเครดิต
https://www.techpowerup.com/225627/smt-and-power-management-behind-kaby-lake-and-zen-windows-10-restrictions
You must be logged in to post a comment.