เตรียมตัวให้พร้อมกับ PlayStation 4 Pro จะมาเป็นหนึ่งในด้านเกมส์มิ่งกราฟฟิกในเทศกาสหยุดยาวที่จะถึงนี้

เมื่อหกเดือนที่แล้ว, ทางเราเคยเขียนบทความเกี่ยวกับรายละเอียดของ PlayStation 4K และกับการรองรับ HDR, หากตอนนี้มาดูทางด้านเทคโนโลจีของทีวี โดยเฉพาะกับความละเอียดของภาพที่สูงขึ้นพร้อมด้วยราคาที่ทำได้ต่ำลงได้เรื่อยๆจนกระทั่งผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก คำตอบของทาง Sony ก็คืออัพเดทตัวกราฟฟิกเพื่อมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เหมาะสมมากขึ้น.

AMD และ Microsoft ทั้งคู่ได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพทางกราฟฟิกจากภายในกลุ่มกันเอง, ทาง AMD ออกมายอมรับว่าตัวภาพ 1080P+HDR “นั้นยังดูดีกว่าเข้าท่ากว่า” หากเทียบกับ 4K+SDR (Standard Dynamic Range, สิ่งที่เราคุ้นกันดี). และจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นเมื่อเกมส์อย่าง Forza Horizon 3 และ Gears of War 4 จะเป็นเกมส์แรกๆที่จะเป็น HDR games และจะมีขายในรูปแบบ Xbox One S, และจากการทดสอบตัวภาพนั้นทำได้ดีมากใน เครื่องคอนโซลหากเทียบกับที่เล่นอยู่กันบน PC เป็นเพราะว่าเทคโนโลจีนี้.

สามารถบ่งบอกได้ว่า HDR (และ Wide Color Gamut/เฉดสีที่ครอบคลุมได้กว้างกว่า) สามารถทำให้เม็ดสีนั้น/ pixels แสดงบนจอภาพได้ดีกว่า, ไม่ใช่เพียงแค่อัดเม็ดสีหรือ pixels เข้าไปเยอะๆ. ให้ชัดไปกว่านั้น, ระบบ HDR technology สามารถทำให้สายตาของคนรับรู้เฉดสีได้ดีกว่า อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้ Rec.2020 standard และ 10-12 bit color depth. ในภาพอันเดียวกัน, สามารถปรับเปลี่ยนความสว่างหรือความเข้มของแสงได้เริ่มจาก 0.0001 ไปถึง 10.000 nits ของความเข้มแสง/luminance หากกล่าวทางด้านทฤษฏีและยังขึ้นอยู่กับสเป็คของแต่ละทีวีอีกด้วย.

แล้วมันหมายถึงอะไรในแง่ความเป็นจริง? จุดที่มืดก็จะมืดลึกมากยิ่งขึ้นและจุดที่สว่างก็จะสว่างมากยิ่งขึ้น – ยกตัวอย่างง่ายๆก็คือ เวลาพระอาทิตย์ขึ้น บนจอภาพก็จะเป็นจุดบอดหรือ blinding ใน HDR content, แต่จริงๆแล้วไม่ใช่อย่างนั้น: ด้วยระบบ shades of colors ที่สามารถแยกแยะแสงเงาออกมาได้อย่างชัดเจนและรายละเอียด ทำให้เผู้สร้างเกมส์หรือภาพยนต์นั้นต่างก็อยากนำระบบนี้มาใช้. และจะทำให้ผู้รับชมนั้นเข้าไปใกล้มากขึ้นสำหรับผู้สร้างต่างๆที่อยากให้เห็นเหมือนอย่างที่เค้าเห็นทางสภาพแวดล้อมจริงลงบนสู่จอภาพ.

ถึงตอนนี้ทางบริษัทก็ได้ออกมาเปิดเผยตัว PlayStation 4 Pro ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว และกำหนดไว้วันที่ 10 พฤษจิกายนนี้เปิดวางจำหน่ายแน่นอน, และมันจะเป็นภาพกราฟฟิกที่ดีที่สุดสำหรับเทศการวันหยุดนี้. เหตุเป็นเพราะว่าตัว gaming platform นั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับ 4K และ HDR ในปี 2016.

แน่นอนว่า PlayStation 4 Pro นั้นเหนือกว่า Microsoft’s Xbox One S รุ่นใหม่ในด้านการรองรับ HDR และการจ่ายภาพ 4K นั้นเหนือกว่าตัว Xbox One ที่มีขายกันอยู่ในปัจจุบัน. นอกเหนือไปจากนั้น, ทาง Sony ยังเพิ่มขีดความสามารถทางด้านฮาร์ดแวร์ที่ได้มาจาก AMD’s Polaris GPU ที่มี 36 Compute Units, ซึ่งทำความเร็วได้ 4.2 teraflops (2.3 เท่ามากกว่าตัว PlayStation 4 รุ่นธรรมดา). ซึ่งก็เป็นรุ่น overclocked processor, เพิ่มค่า memory bandwidth และการปรับแต่งแบบ custom เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของตัวฮาร์ดแวร์ ในการจ่ายภาพและตรวจสอบและยังมี 16-bit floating point operations สองชุดซึ่งต่างจากรุ่นธรรมดาที่มีเพียงชุดเดียว.

ทั้งหมดนี้หากดูกันจริงๆทั่วๆไป มันอาจจะไม่พอในการรองรับความละเอียดที่ 3840*2160 4K (แต่ก็เป็นไปแล้วเช่น The Elder Scrolls Online), และมันจะถูกแปลงออกมาเป็น base resolutions/ความละเอียดแบบมาตรฐาน ที่ให้ภาพได้ใกล้เคียงแบบที่แยกกันไม่ออก เช่น 1800P (3200*1800).

และแน่นอนว่า PC system สามารให้ภาพ native 4K experience ได้ในเกมส์ปัจจุบัน. แต่อย่าลืมว่าในพีซีนั้นไม่รองรับ HDR.

เหตุเป็นเพราะว่าผู้เล่นเกมส์ส่วนใหญ่นั้นเล่นบนจอมอนิเตอร์มากกว่าบนทีวี และตอนนี้ก็ไม่มีเกมส์มิ่งมอนิเตอร์รุ่นไหนที่มีระบบนี้. ทางผู้ผลิตมอนิเตอร์ก็รู้ดีถึงข้อนี้ว่า HDR technology นั้นสามารถปรับเข้าใช้ได้ แต่ดูเหมือนปีหน้าจะเปลี่ยนไป เพราะว่าจะมี HDR monitors ออกมาและจะจัดแสดงในงาน CES 2017 (มกราคม 5-8 2017 ที่ Las Vegas, Nevada).

PC นั้นน่าจะกลับมาทวงแชมป์ได้อีกในปีหน้า 2017, และทาง Microsoft’s Xbox Scorpio ก็ออกมายืนยันแล้วว่าจะออกรุ่นที่มาพร้อม 6 teraflops vs 4.2, 320 GB/s memory bandwidth vs 218 เวอร์ชั่น เพื่อมาตีกับ Sony’s PlayStation 4 Pro.

แต่ว่าในเทศการหยุดยาวนี้, คุณสามารถเล่นเกมส์ เช่น Dishonored 2, Battlefield 1, Call of Duty: Infinite Warfare & Modern Warfare Remastered, Mafia 3, Final Fantasy XV, FIFA 2017, PES 2017, Deus Ex: Mankind Divided และ Watch Dogs 2 ทั้งระบบ 4K และ HDR บน PlayStation 4 Pro, ซึ่งมันจะเป็นกราฟฟิกที่ดีและสายตาคนเราเข้าได้มากถึงที่สุดในปี 2016.