การ์ดจอ Radeon RX 5500 XT เป็นการ์ดจอที่ใช้ชิป Navi ซึ่งรองรับการใช้งานร่วมกับ PCIe 4.0 จึงเกิดคำถามว่าถานำมาใช้งานร่วมกับ PCIe 3.0 จะส่งผลอย่างไรบ้าง
จากข้อมูลของเว็บไซต์ PcGamesHardware.de เผยผลทดสอบในเกม Assassin’s Creed: Odyssey, BF V, Far Cry: New Dawn และ Shadow of the Tomb Raider ปรากฏว่ามันเกิดความแตกต่างขึ้นจริงเมื่อใช้ PCIe ต่างเวอร์ชัน
ความแตกต่างมีอยู่ 2 จุด อันดับแรกคือการ์ดจอรุ่นแรม 4GB จะได้ FPS น้อยกว่ารุ่น 8GB (อันนี้เป็นเรื่องปกติ) แต่พอเป็นการใช้งานบน PCIe 4.0 เทียบกับ 3.0 แล้ว พบว่าเมื่อการ์ดจอทำงานบน PCIe 3.0 กลับได้ค่า FPS น้อยลงครับ
มันเกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร ? ตามสเปคของการ์ดจอ Radeon RX 5500 XT จะต้องใช้งานบน PCIe 4.0 x8 ซึ่งความเร็วของมันเทียบเท่ากับ PCIe 3.0 x16 นั่นเอง
แต่ปัญหาคือถ้าเราใช้เมนบอร์ด PCIe 3.0 (บอร์ดเก่าที่ไม่ใช่ X570) หรือใช้ซีพียู Ryzen 1000/2000 series การ์ดจอจะไม่สามารถทำงานที่ PCIe 3.0 x16 ได้ จะได้แค่ x8 (ประมาณว่ามันมีจำนวนเลนให้แค่นี้)
ทีนี้คำอธิบายผมได้นำมาจาก Reddit AMD จากสมาชิกรายหนึ่ง เขากล่าวว่าโดยปกติแล้วถ้าเราเล่นเกมทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น PCIe 4.0 x8/PCIe 3.0 x16/PCIe 3.0 x8 คงไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเล่นเกม AAA พร้อมใส่ความละเอียดกราฟฟิกแบบจัดเต็ม (หรือบางคนลงมอดภาพสวยเพิ่ม) มันส่งผลให้การใช้งานแรมการ์ดจอไม่เพียงพอ แล้วต้องดึงแรมเครื่องมาใช้ ซึ่งมันต้องมีการส่งข้อมูลหาบนผ่านเลน PCIe เหล่านี้ เมื่อเลนน้อยลง ความเร็วลดลง จึงเป็นสาเหตุว่าทำไม FPS ลดลง
อย่างไรก็ตาม น้อยคนมากที่จะซื้อการ์ดจอ Radeon RX 5500 XT ระดับ Entry มาใช้งานบนบอร์ด X570 ราคาแพง ๆ ดังนั้น คุณไม่ต้องเป็นห่วงมากนักหรอก จึงภูมิใจในสิ่งที่มี และอย่าลืมสั่งปิดตัวเลข FPS ก่อนเล่นเกมด้วยนะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก PcGamesHardware
You must be logged in to post a comment.