Review:ASUS STRIX Z270F GAMING ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน Overclock ไกลถึง 5.4 GHz

กราบสวัสดีครับทุกๆท่านกลับมาเจอกันอีกครั้ง รอบนี้คิดว่าจะเป็นบทความที่เพื่อนๆหลายๆคนรอคอยเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้เพราะมันเป็นวันเปิดตัวเมนบอร์ดที่ใช้งานชิพเซตใหม่หรือเป็นซีรี่ Z270 ที่ทาง Intel เปิดตัวเพื่อรองรับ CPU GEN 7 ตัวใหม่ แต่ทว่าเมนบอร์ด Z170 และ Z270 สามารถใช้งานร่วมกันกับ CPU ทั้ง GEN 6 และ 7 ได้อย่างไม่มีปัญหา อาจจะมีเพิ่มหรือแกะไขประสิทธิภาพต่างๆให้ดีขึ้นเพื่อการใช้งานที่ราบลื่นและยังสามารถ Overclock ได้ดีกว่าเดิมโดยบทความนี้เป็นบทความแรกของเมนบอร์ด Z270 จากทาง ASUS ดังนั้นเดียวเราไปดูรายละเอียดต่างๆกันเลยดีกว่า

สำหรับตารางการใช้งานของเมนบอร์ด ASUS ในขนาดต่างๆ โดยจะแบ่งซีรี่เอาไว้ทั้งหมด 3 อย่างหลักๆ นั้นคือขนาดของตัวแผ่น PCB ที่มี ATX M-ATX และ MINI-ITX

สำหรับการอ่านชื่อรุ่นของทาง ASUS จะมี 3 ส่วหลักๆในการอ่าน โดยจะแบ่งเป็นชุดหน้าสุดที่บงบอกว่าเป็น Series อะไรต่อมาจะเป็นการบอกถึงชิพเซต ว่าเป็น Z หรือ H  สำหรับตัวสุดท้ายนั้นจะเป็นการบอก Segment ของตัวเมนบอร์ด

สำำหรับตารางการเปิดตัวของเมนบอร์ดต่างๆ เอาจริงๆแล้วได้มีการผลิตส่งให้สื่ออย่างพวกเราๆทดสอบตั้งแต่เดือน Nov มาตั้ง 2 เดือนแล้ว แต่ที่จะเปิดให้ขายเพราะติดสัญญา NDA กับทาง Intel คือวันที่ 5 มกราคมนั้นเอง ทำให้ตารางอาจจะดูแปลกไปสักเล็กน้อย

สำหรับวันนี้ทางผมได้รับเมนบอร์ด ASUS STRIX Z270F GAMING 

จุดเด่นและสเปคต่างๆในการทำงานที่รองรับทั้งหมด

อีกอย่างหนึ่งที่กำลังฮิตมากคือไฟโรงลิเกหรือไฟ RGB ตอนนี้ทาง ASUS ก็ได้มีการออกซอฟแวร์ออกมาเพื่อเอาไว้ซิงค์ไฟ RGB โดยถ้าเราได้ใช้งานอุปกรณ์ของทาง ASUS หลายๆชิ้นและอยากให้ไฟไปในโทนเดียวกันหรือสลับสีไฟไปตามๆกันแล้ว ทาง ASUS ออกมาตอบโจทย์แล้ว

อีกจุดหนึ่งจะเป็นส่วนของการรองรับ 3D PRINTING เอาไว้เผื่อใครอยากตกแต่งเคสก็สามารถไปดาวโหลดมาปริ้นติดตั้งลงไปได้

ชิพ Pro Clock ที่เอาไว้ช่วยเพื่มความละเียดในการปรับแต่งปละจัดการ Overclock ทั้งหมด เพื่อให้ได้ความแรงแบบขีดสุดหมดทุกเม็ด

หลังจากดูรายละเอียดไปเยอะแล้วเรามาดูกันเลยดีกว่าครับ โดยตัวกล่องรอบนี้เรียกได้ว่ามีการลอกแบบมาจากการ์ดจอเลยก็ว่าได้เพราะหลังจากที่การ์ดจอได้มีรุ่น STRIX และขายดีไปแล้วรอบนี้ทาง ASUS เลยจัดมาลงกับเมนบอร์ด โดยรุ่นวันนี้เป็นรุ่น STRIX Z270F GAMING

สำหรับทางด้านหลังของตัวกล่องนั้นทาง ASUS มีการบอกฟีคเจอร์รายละเอียดเอาไว้ต่างๆพร้อมทั้งมีการบอกจุดเชื่อมต่อหรือจุดเด่นต่างๆเอาไว้ทั้งหมด

แกะกล่องออกมาดูของแถมที่ทาง ASUS จัดมาให้ อย่างเคยๆก็คือยังมีการแถมมาให้แบบเต็มกล่องเช่นเดิมไม่มีกัก โดยจะมีชุดคู่มือการติดตั้งและการใช้งาน แผ่นเสริมโปรแกรมพร้อมไดรเวอร์ต่างๆ สติเกอร์ สาย Sata จำนวน 6 เส้น พร้อมทั้งแผ่นปิดช่อง I/O ทางด้านหลังของตัวเคส ชุดเพื่อความสะดวกในการติดตั้ง CPU และสายทางด้านหน้าเคสและสุดท้ายยังคงมีแถมบริจ SLI มาให้อีกหนึ่งตัว

มาดูที่พระเอกของงานนี้กันเลยดีกว่ากับเจ้า STRIX Z270F GAMING รอบนี้มาในแบบโทนสีครึมๆ สีดำเรียบๆแต่ต้องบอกว่าเวลาติดตั้งและใช้งานจริงๆแล้ว สีสันมันจะส่องประกายออกมาอย่างสวยงามเลยทีเดียว

สำหรับชุดภาคจ่ายไฟนั้นทาง ASUS ยังคงใส่ใจและจัดเต็มมาเช่นเดิมโดยมีมาทั้งหมด 10 เฟสด้วยกัน สำหรับจุดนี้ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานและจ่ายไฟได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

สำหรับทางด้านหลังของตัวช่อง i/o จะมีการออกแบบฝาครบเอาไว้อย่างดีดูลงตัวกับฮิตซิงค์ภาคจ่ายไฟเป็นอย่างมาก

สำหรับการจ่ายพลังงานให้กับตัว CPU นั้นจะมีช่องจ่ายไฟแบบ 8 pin เพื่อ cpu โดยเฉพาะ

สำหรับช่อง PCI-E นั้นจะมีทั้งหมด 7 ช่อง ด้วยกันโดยจะแบ่งเป็นช่อง PCI-E 1X จำนวน 4 ช่อง และอีก 3 ช่องจะเป็นช่องแบบ PCI-E 16X  โดย 2 ช่องบนนั้นจะมีการเสริมเหล็กเพิ่มความแข็งแรงเพื่อเอาไว้รองรับการ์ดจอหนักๆได้อย่างสบาย

สำหรับตัวฮิตซิงค์ของ PCH นั้นจะใช้งานเป็นโทนสีดำเรียบสนิท แต่อย่างเดิมก็คือ ตอนใช้งานเดียวมีส่องสว่างสวยงาม

การรองรับการติดตั้ง M.2 จะสามารถติดตั้งได้ทั้งหมด 2 อันด้วยกัน โดยรองรับความยางสูงสุดที่ 22110 และ 2280 ด้วยกันครับ

เรื่องของระบบเสียงนสั้นทาง ASUS ได้เลือกใช้งานเป็น SupremeFX  โดยได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ

สำหรับการเชื่อมต่อสาย Sata นั้นเมนบอร์ดรุ่นนี้ได้รองรับทั้งหมด 6 ช่องด้วยกัน เรียกว่าน่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน

สำหรับเมนบอร์ดรุ่นนี้จะไม่มีช่องไฟ Debug Code มาให้แต่อย่างใดแต่จะเป็นไฟ LED บอกสถานะว่าเกิดปัญหาจากส่วนไหนแทน ทำให้คนที่ไม่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เยอะสามารถแก้ปัญหาเองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ช่องเสียบทางด้านหลังของตัวเคสนั้นก็มีมีให้ครบทุกช่อง จุใจ สามารถใช้งานได้เพียงพออย่างแน่นอนครับไม่ว่าจะเป็น USB Type-C หรือ USB3.0 อีก5 ช่อง  การเชื่อมต่อออกสู่จอภาพก็รองรอบ DVI-D  HDMI และ HDMI ช่องเสียบ PS2 ก็มีรองรับและเรื่องระบบเสียงก็จัดเต็ม