REVIEW ASUS ZenBook UX490U ที่สุดแห่งความหรู ที่สุดแห่งความบางเบา

ZenBook 3 Deluxe(UX490U) แล็ปท็อปสุดหรูของค่าย ASUS รูปทรงโดดเด่น หรูหรา บางเบา เสริมสร้างบุคลิคของผู้ที่ใช้งาน ตัวเครื่องอลูมิเนียมอัลลอยบางเพียง 12.9 มิลลิเมตร น้ำหนักเพียง 1.1 กิโลกรัม ตัวเครื่องแบบ unibody ที่ผ่านกระบวนการ Anodizing และมีขอบโลหะสีทอง มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 14 นิ้วความละเอียด FHD จอแสดงผลแบบ NanoEdge กระจกกันรอยหน้าจอแบบ gorilla glass 5 ขอบจอบางเพียง 7.46 มิลลิเมตร ทำให้ ASUS ZenBook UX490U มีขนาดตัวเครื่องเทียบเท่ากับแล็ปท็อปขนาด 13 นิ้ว

SPEC ASUS ZenBook UX490U

• Intel® Core™ i7-7500U processor 2.7GHz dual-core with Turbo Boost (up to 3.5GHz) and 4MB cache
• Graphics Integrated Intel® HD Graphics 620
• RAM 16GB 2133MHz LPDDR3 onboard
• SSD 512GB
• Windows 10 Pro
• 14” LED-backlit Full HD (1920 x 1080) Corning® Gorilla® Glass 5
• Quad-speaker ASUS SonicMaster Premium stereo
• Interfaces 2 x Thunderbolt™ 3 USB-C™ with support for Charging DisplayPort (Dual 4K UHD external displays) Thunderbolt™ (up to 40 Gbps, 8 times faster than USB 3.0) USB 3.1 Gen 2 (up to 10 Gbps, 20 times faster than USB 2.0) 1 x USB 3.1 Gen 1 USB-C™ with support for: Charging Data transfer (up to 5 Gbps)
• ราคา 69,990 บาท

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

ASUS ZenBook UX490U ถูกออกแบบมาเน้นความบางและเบา วัสดุเป็นตัวเครื่องแบบอลูมิเนียมที่ผลิตจากโลหะชิ้นเดียว(unibody) ขั้นตอนผลิต 40 ขั้นตอนกว่าจะออกมาเป็นชิ้นงาน ขอบด้านข้างที่เป็นสีทองเพิ่มความหรูหรารอบด้าน ใช้กระบวนการผลิตที่เรียกว่า  Two-phase anodizing งานตัดขอบดีมากๆครับ ฝาหลังขึ้นลายแท็คเจอร์คล้ายๆเป็นวาวสะท้อน เอกลักษณ์สำหรับ ZenBook

หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด FHD 1920×1080 พิกเซล 178° wide-view technology ขอบจอภาพที่บางเป็นพิเศษ กว้างเพียง 7.46 มม. กระจกครอบป้องกันรอยขีดข่วน Corning® Gorilla® Glass 5

ด้านล่างขอบจอจะมีสัญลักษณ์ ZenBook และด้านบนขอบจอจะมีกล้องความละเอียด VGA ไว้สำหรับใช้งาน  Web Camera

ความบางของหน้าจอครับ ขอบบางมากๆ

สันขอบช่วงบานพับจะปั้มขึ้นลาย ZenBook ไว้สวยงาม กรอบด้านข้างจะตัดสีทองทั้งหมดรอบตัวเครื่อง

ด้านข้างฝั่งซ้าย จะมีพอร์ต usb type-c และช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม.

ฝั่งขวาจะเป็น USB 3.1 Gen 2 และ  usb type-c สำหรับชาร์จแบต (Charging) จริงๆสามารถเสียบชาร์จได้ทั้งสองฝั่งนะครับ เท่าที่ผมทดลองใช้งานไ้ครับ เพิ่มความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น แบตเตอรี่รองรับการชาร์จเร็ว

เนื่องจากตัวเครื่องจะมีความบางเป็นพิเศษ ก็เลยโดนตัดพอร์ต HDMI และช่อง USB 2.0 ออกไป แต่ทาง ASUS ได้เพิ่มสาย USB-C™ to USB-A dongle และ USB-C™ to HDMI มาให้ใช้งาน แถมมาภายในกล่อง รองรับการปล่อยสัญญาณการแสดงผลแบบ 4K UHD

ปุ่มคีย์บอร์ด คีย์บอร์ด Backlit แบบ Full-size ที่มีระยะกดเพียง 1.2 มม.  มีไฟแบล็คไลค์มาให้ สามารถปรับไฟได้ 2 ระดับครับ ตัวอักษรเป็นสีทองเพิ่มความหรูหรา

ทัชแพดขนาดปานกลาง เทคโนโลยี Palm Rejection รองรับการทัชที่ดียิ่งขึ้นรองรับการเขียนด้วยลายนิ้วมือ และมีปุ่มสแกนนิ้ว (fingerprint sensor) เพื่อใช้งานใน Windows Hello เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานยิ่งขึ้น

ลำโพงตัวเครื่องจะอยู่ด้านบนของคีย์บอร์ดทั้งสองข้าง และด้านล่างตัวเครื่องอีกสอง รวมกันก็ได้ลำโพงมาทั้งหมดสี่ตัวด้วยกัน ลำโพงใช้ของ Harman Kardon คุณภาพเสียงดีมากๆครับ ระบบเสียง SonicMaster Premium stereo ช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังยิ่งขึ้น

ขนาดตัวเครื่อง 32.9 x 21.0 x 1.29 ซม. หนัก 1.1 กิโลกรัม

ประสิทธิภาพการทำงาน

มาพร้อมกับ Intel® Core™ i7-7500U processor ความเร็ว 2.7GHz dual-core with Turbo Boost (up to 3.5GHz) ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel® HD Graphics 620 เพื่อความประหยัดพลังงานและพื้นที่มีจำกัด หน่วยความจำภายในเครื่องเรียกได้ว่าจัดเต็มครับ RAM 16 GB หน่วยความจำภายในแบบ SSD 512GB

ระบบกระจายความร้อน ใช้ใบพัดลมแบบ Liquid-crystal-polymer ที่มีความหนาเพียง 0.3 มม. และมีฮีทไปป์ทองแดงอัลลอยที่มีผนังที่หนาเพียง 0.1 มม. ช่วงเวลาใช้งานจะรู้สึกร้อนที่ตัวบอร์ดี้เพราะบอร์ดี้เป็นโลหะช่วยกระจายความร้อนอีกทางครับ การควบคุมอุณหภูมิถือว่าทำออกมาไดด้ดดีทีเดียว ใช้งานทั่วไปเฉลี่ย 47-53 องศา ในห้องแอร์ ถ้าเข้าโหมด 3D ความร้อนจะไปแตะที่78-82 องศา

คะแนนทดสอบความเร็วของตัวเครื่องถือว่าทำออกมาไดด้ดีมากๆ โดยเฉพาะความเร็วของ SSD การบูทเครื่องรวมไปถึงอ่าน-เขียนข้อมูล รวดเร็วทันใจมากๆ

แบตเตอรี่ 4-cell lithium-polymer battery ใช้งานทั่วไปอยู่ราวๆ 6.30 ชั่วโมงครับ ถ้าเปิดโหมดประหยัดพลังงานสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว หมดกังวลในการนำออกไปใช้งานนอกบ้าน และแบตเตอรี่ยังรองรับการชาร์จเร็วด้วย เท่าที่ทาง asus เคลมไว้ ชาร์จเพียง 49 นาที แบตจะขึ้นไปถึง 60%

ที่ชาร์จรองรับการชาร์จเร็ว มีขนาดเล็กและเบามากๆ สะดวกสบายเมื่อต้องการพกพาออกไปใช้งานนอกบ้าน

สรุป

ASUS ZenBook UX490U ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่ต้องการความพรีเมี่ยม วัสดุตัวเครื่องที่หรูหราและมีขนาดเล็กกระทัดรัด พกพาง่ายเมื่อนำออกไปใช้งานนอกบ้าน ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเยี่ยมบวกกับระยะเวลาในการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนาน น่าจะเหมาะกับกลุ่มที่นำออกไปติดต่องานข้างนอกหรือออกไป present งานตามสถานที่ต่างๆ ตัวเครื่องยังช่วยเพิ่มความภูมิฐานของคนที่ใช้งานขึ้นอีกด้วยครับ

สำหรับค่าตัว 69,990 บาท ถ้ามองในกลุ่มนักธุรกิจหรือคนที่จำเป็นใช้งานนอกบ้านบ่อยๆ ถือว่าคุ้มแน่นอน ตัวเครื่องยังรับประกันยาวนานถึง 2ปี แบบ VIP Service (Onsite service & 2 Hours speed repair)