รีวิว ASUS ProArt Studiobook 16 OLED (H7604J) โน้ตบุ๊กสายครีเอเตอร์ระดับมืออาชีพ ประสิทธิภาพสูง

ASUS ProArt Studiobook 16 OLED (H7604J) โน๊ตบุ๊คหรือจะเรียกว่า workstation แบบพกพาก็ไม่ผิด ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.2K 3200 x 2000 พิกเซล ที่ให้ค่าเที่ยงตรงของสีสูงมากเหมาะสำหรับการทำงานด้านกราฟฟิกโดยเฉพาะ ติดตั้งชิปประมวลผลโปรเซสเซอร์ Intel® Core i9-13980HX ใช้กราฟฟิกการ์ดแยก NVIDIA® Geforce RTX 4070 ตอบโจทน์การใช้งานระดับมืออาชีพ หน่วยความจำ RAM DDR5 32 GB / Storage 1TB M.2 NVMe PCIe® 4.0 และมาพร้อมกับปุ่มฟังก์ชั่นพิเศษ ASUS Dial เพื่อใช้เป็นปุ่มลัดกับโปรแกรมต่างๆ

ตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home และ Office Home and Student 2019 มาให้พร้อมใช้งาน โดยมีค่าตัวอยู่ที่ 99,990 บาท การรับประกันแบบ ASUS Exclusive Care บริการซ่อมถึงที่ 3 ปีเต็ม, ประกันอุบัติเหตุ (Perfect Warranty) 1 ปีแรก และ ประกัน 3 ปี International Warranty ครอบคลุม 57 ประเทศทั่วโลก

SPEC ASUS ProArt Studiobook 16 OLED (H7604J)

• หน้าจอ OLED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.2K 3200 x 2000 พิกเซล อัตราส่วน 16:10 / refresh rate 120Hz / ค่าความสว่าง 500nits / รองรับ touchscreen พร้อมปากกา ASUS Pen
• โปรเซสเซอร์ Intel® Core i9-13980HX Processor 2.2 GHz (36MB Cache, up to 5.6 GHz, 24 cores, 32 Threads)
• การฟิก NVIDIA® GeForce RTX 4070 Laptop GPU 8GB GDDR6
• RAM DDR5 32 GB รองรบการอัพเกรดสูงสุด 64GB
• Storage 1TB M.2 NVMe PCIe® 4.0
• ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home
• Office Home and Student 2019
• ลำโพงสเตอริโอ 4 ตัว พร้อม Smart Amp Technology
• Wi-Fi 6E(802.11ax) (Dual band) 2*2
• Bluetooth 5.3
• กล้อง WEB CAM ความละเอียด FHD พร้อมฟังก์ชัน IR
• แบตเตอรี่ 90WHrs
• Military Grade US MIL-STD 810H military-grade standard
• ราคา 99,990 บาท วางจำหน่ายสี Mineral Black

แกะกล่องเช็คของ

ตัวกล่องจะมาโทนสีดำดูแข็งแรงมากๆ อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้

• ตัวเครื่อง ASUS ProArt Studiobook 16 OLED (H7604J)
• AC Adapter ขนาด 240W
• กระเป๋า Backpack อย่างดี
• Stylus (ASUS Pen 2.0 SA203H-MPP2.0 support)
• คู่มือการใช้งาน

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

ตัวเครื่องเน้นความเรียบหรูฝาหลังมีเพียงโลโก้ของทาง ProArt ซีรี่ย์ สีที่วางจำหน่ายจะมีแค่สีเดียวคือ Mineral Black ฝาหลังวัสดุแบบโลหะ ตัวเครื่องได้ผ่านรับรองความทนทานจาก Military Grade US MIL-STD 810H military-grade standard

บานพับสามารถกางใช้งานได้สูงสุด 175 องศา บานพับมีความแข็งแรงใช้ได้เลย

หน้าจอ OLED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.2K 3200 x 2000 พิกเซล อัตราส่วน 16:10 / refresh rate 120Hz / ค่าความสว่าง 500nits

หน้าจอถูกคาลิเบทมาให้แล้วเรียบร้อยนะครับหรือจะตั้งโปรไฟล์ให้เหมาะกับการใช้งานได้ในแอพ ASUS Creator ได้อีกที หน้าจอรุ่นนี้ผ่านการรับรอง VESA DisplayHDR True Black 500 ให้คอนทราสต์สูงพิเศษและสีดำเข้ม และช่วงสีมาตรฐานอุตสาหกรรม DCI-P3 100%  รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision ให้ค่าสีที่เที่ยงตรงผ่านการรองรับจาก Calman Verified และ PANTONE Validated ค่าความแม่นยำของสี Delta E <2

หน้าจอรองรับการทัชสกรีน สามารถขีดเขียนได้ทั้งนิ้วและปากกา Stylus ตัวปากกาที่แถมมาจะรองรับระดับแรงกดสูงสุดที่ 4096 ระดับ และสามารถขีดเขียนผ่านตรงส่วนทัชแพดได้เช่นกัน

ด้านหลังตัวเครื่องจะมีช่องรังผึ้งเพื่อระบายอากาศ และจะลำโพงมาให้ทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน

ขนาดตัวเครื่องจะอยู่ที่ 35.60 x 27.10 x 2.09 ~ 2.39 ซม. น้ำหนัก 2.4 กิโลกรัม

คีบอร์ดและทัชแพด

เอาใจสายทำงานเกี่ยวกับตัวเลขไปเต็มๆกับคีบอร์ดแบบ full size keyboard ที่มีแผงนัมแพดมาให้ใช้งานด้วย แป้นพิมพ์และทัชแพด ASUS ErgoSense ที่ถูกออกแบบมาให้ให้ง่ายสำหรับการใช้งาน และพื้นผิวของแป้นคีบอร์ดจะถูกเคลือบสารพิเศษมาให้ ช่วยลดแรงเสียดทานและป้องกันรอยนิ้วมือ สำหรับชุดแป้นคีบอร์ด ทัชแพด รวมไปถึงที่วางพักข้อมือ จะถูกเคลือบสารป้องกันแบคทีเรียมาให้(ASUS Antibacterial Guard) สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้มากกว่า 99%

ทัชแพดมีพื้นที่ขนาดใหญ่ รองรับการการขีดเขียนผ่านปากกา Stylus ได้ด้วย

พิเศษสุดกับปุ่ม ASUS Dial เราสามารถเข้าไปตั้งค่าการใช้งานที่ให้เหมาะสมกับแต่ละโปรแกรมได้นะครับผ่านโปรแกรม ASUS Creator

พอร์ตการเชื่อมต่อ

ตัวเครื่องติดตั้งพอร์ตมาให้รอบตัวเลยครับและเหมาะแถมสะดวกเวลาใช้งานมากๆ โดยด้านซ้ายจะมี USB 3.2 Gen 2 Type-A / พอร์ตหูฟัง 3.5mm Combo Audio Jack / ช่องอ่านการ์ด SD Express 7.0 card reader

ด้านขวาจะมี Thunderbolt 4 มาให้ทั้งหมด 2 ช่อง / USB 3.2 Gen 2 Type-A

ความดีงามคือ พอร์ตชาร์จไฟ DC-in / HDMI และ RJ45 Gigabit Ethernet เอามาไว้ด้านหลังตัวเครื่องนี่แหล่ะครับสะดวกเวลาใช้งานมาก

ประสิทธิภาพการทำงาน

ASUS ProArt Studiobook 16 OLED (H7604J) มาพร้อมกับชิปประมวลผลโปรเซสเซอร์ Intel® Core i9-13980HX ทำงานแบบ 24 cores(8P-core/ 16E-core) , 32 Threads ความเร็วสูงสุดที่ 5.6 GHz มีค่า TDP ที่ 55W ถือว่าเป็นชิปประมวลผลที่แรงสุดแล้วในเวลานี้ เหมาะสำหรับการทำงานหนักหรือทำงานแบบ multitasking

กราฟฟิกจะแบ่งเป็นสองตัว สำหรับการใช้งานทั่วไปจะเป็นหน้าที่ของ Intel UHD Graphics ส่วนการใช้งานด้าน 3D จะเป็นหน้าที่ของการ์ดแยก NVIDIA Geforce RTX 4070 Laptop GPU 8GB GDDR6 Up to 2175MHz Boost Clock 130W

หน่วยความจำ

• RAM DDR5 32 GB รองรบการอัพเกรดสูงสุด 64GB
• Storage 1TB M.2 NVMe PCIe® 4.0

ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องผ่านโปรแกรมต่างๆ

ASUS ProArt Studiobook 16 OLED (H7604J) ได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home และโปรแกรม Office Home and Student 2019 มาไว้ให้พร้อมใช้งาน และจะมีโปรแกรม MyASUS จะเข้ามาตั้งค่าต่างของตัวเครื่อง รวมไปถึงดูข้อมูลการใช้งานของตัวเครื่องได้ด้วย

สรุป

สำหรับใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงไว้ใช้งาน โดยเฉพาะสายครีเอเตอร์ระดับมืออาชีพหรือสายงานด้านกราฟฟิกดีไซน์ ASUS ProArt Studiobook 16 OLED (H7604J) ช่วยลดเวลาการทำงานได้แน่นอนกับสเปคระดับนี้