รีวิว OPPO Reno6 Z 5G เอาใจสายถ่ายภาพแนว Portrait ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

OPPO Reno Series สมาร์ทโฟนที่ชูจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพและการออกแบบตัวเครื่องที่สวยงามบางเยา สำหรับ OPPO Reno6 Z 5G ถือว่าเป็นน้องใหม่ของซีรี่ย์พึ่งเปิดตัวสดๆร้อนๆกับค่าตัวที่ 12,990 บาท โดยรุ่นนี้มากับสโลแกน “อารมณ์ไหน ก็พอร์ตเทรต” โดยชูจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพแนว Portrait ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

SPEC OPPO Reno6 Z 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 พิกเซล Refresh Rate 60Hz
  • ชิปประมวลผล CPU Dimensity 800U SoC
  • GPU ARM G57 MC3
  • RAM 8 GB
  • ROM UFS2.1 ขนาด 128 GB
  • ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Color OS 11.1
  • กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 64+8+2 ล้านพิกเซล
  • WiFi 802.11 a/b/g/n/ac
  • Bluetooth 5.1
  • ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และ สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค
  • แบตเตอรี่ 4300mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0
  • ราคา 12,990 บาท วางจำหน่าย 2 สี คือ Aurora และ Stellar Black

แกะกล่องเช็คของ

อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดมีดังนี้

  • ตัวเครื่อง OPPO Reno6 Z 5G พร้อมติดฟิมล์ป้องกันรอยมาให้แล้ว
  • ADAPTER 30W VOOC Flash Charge 4.0
  • สาย USB-C
  • หูฟัง
  • เคสซิลิโคน
  • เข็มจิ้มถาดซิม
  • คู่มือและใบรับประกัน

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

OPPO Reno6 Z 5G มาพร้อมกับหน้าจอพาแนลแบบ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 พิกเซล 409PPI ค่าความสว่างสูงสุด 800nits  ค่า Refresh Rate 60Hz / Touch Sampling Rate 135Hz – 180Hz (Game mode) รองรับการแสดงผลแบบ HDR และค่า NTSC color gamut 96%

หน้าจอแสดงผลคมชัด สีสันสวยงามใช้ได้เลยครับ สีสวย สีดำก็ดำแบบสนิท มีโหมดถนอมสายตามาให้พร้อม หน้าจอยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจออีกด้วย

หน้าจอเหมาะสำหรับการรับชมคอนเท็นต่างๆ รองรับการชม Netflix แบบ Full HD

กล้องหน้าเจาะรูแบบ Punch-Hole Display กล้องหน้ามีความละเอียดที่ 32 ล้านพิกเซล บนขอบหน้าจอจะมีเซ็นเซอร์วัดแสงและลำโพงสนทนามาให้

ขอบหน้าจอมีความบาง ทำให้ตัวเครื่องมีสัดส่วนพื้นที่หน้าจอสูงถึง 90.8%

ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องหุฟังแบบ 3.5 มม. / ไมค์สนทนา / พอร์ต USB Type-C 2.0 และลำโพงตัวเครื่อง

ฝั่งขวาจะมีปุ่ม power เพียงปุ่มเดียว

ด้านบนจะมีไมค์ตัดเสียงรบกวนมาให้ครับ

ฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งของ ถาดซิมการ์ด และปุ่มปรับระดับเสียง

ถาดซิมแบบ 3 สล็อต แยกกันใช้งานแบบอิสระ

ฝาหลังเป็นพลาสติกเน้นความโค้งมนรอบข้าง และมีการไล่ระดับสีด้วยเกร็ดเคลือบผิวเมื่อสะท้อนแสงจะดูสวยงามมาก พร้อมกับลดรอยนิ้วมือได้ดีด้วยครับ สีที่ผมรีวิวคือสี Stellar Black

ด้านหลังตัวเครื่องจะมีชุดเลนส์กล้อง 3 ตัวพร้อมไฟแฟลช LED วางในกรอบเดียวกัน

ขนาดตัวเครื่อง 160.20 x 73.38 x 7.92 มม. น้ำหนัก 173 กรัม เมื่อถือใช้งานทั่วไป

ระบบปฏิบัติการ

OPPO Reno6 Z 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Color OS 11.1 ถือว่าเป้นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดแล้วครับ หน้าตา UI และไอคอนต่างๆสามารถปรับเองได้ สามารถใช้งานในส่วนของการโคลนแอพได้(บางแอพ) ฟังก์ชั่นพิเศษเช่น Gesture ยังมีมาให้ใช้งานปกติ และมีโหมดแสดงหน้าจอขณะสลีปด้วยครับ(Always-On Display) เพื่อดูเวลา การแจ้งเตือนต่างๆโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ

ประสิทธิภาพการทำงาน 

OPPO Reno6 Z 5G เลือกใช้ชิปประมวลผล CPU Dimensity 800U SoC แบบ Octa-core ความเร็วสุงสุด 2.4 GHz ขบวนการผลิตแบบ 7 นาโนเมตร ตัวชิปรองรับการใช้งานส่วนของ 5G ได้ด้วยครับ ชิปประมวลผลชุดนนี้เน้นประหยัดพลังงานและรองรับ 5G นั้นเองครับ

ชิป GPU ARM G57 MC3 สำหรับการประมวลผลด้านภาพ เล่นเกมความละเอียด FHD ถือว่าลื่นใช้ได้เลยและเล่นเป็นเวลานานๆตัวชิปไม่ร้อน

หน่วยความจำ RAM LPDDR4x ขนาด 8 GB / ROM UFS 2.1 ขนาด 128 GB รองรับการเพิ่ม microSD Card

ทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่องผ่านโปแกรม

สำหรับการเล่นเกมจะมีโหมดเกมมาให้ เช่นเพิ่มระดับ Touch Sampling Rate / ปรับฟิลเตอร์ขณะเล่นเกม และตั้งค่าการแจ้งเตือนต่างๆ

ทดสอบการจับสัญญาณและนำทางผ่าน GPS การจับสัญญาณต้องรอซักพักนะครับขึ้นอยู่กับสัญญาณเราด้วยถือว่ามีองค์ประกอบเช่นกัน เมื่อจับสัญญาณได้แล้ว การนำทางและค้นหาเส้นทางต่างๆทำได้รวดเร้วและแม่นยำดี

กล้องถ่ายภาพ

กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งการทำงานได้ดังนี้

  • เลนส์หลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล f/1.7, FOV 79°, 6P lens
  • เลนส์ Wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2, FOV 119°, 5P lens
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4, FOV 88°, 3P lens

จุดเด่นของ OPPO Reno6 Z 5G คือโหมดการถ่ายภาพแบบ Bokeh Flare Portrait ช่วยให้การถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลายได้สวยงามและดียิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ การเบลอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทั้งกลางวันและกลางคืน

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait การละลายหลังถือว่าทำได้ดีมาก ตัวคนไม่ลอยออกมา โดยเฉพาะภาพที่ถ่ายกับใบไม้ด้านหน้า ใบไม้ยังเด่นชัดแล้วไล่ความละลายหลังเป็นเลเยอร์ดูสวยงามธรรมชาติดีครับ

เทียบชัดๆระหว่างถ่ายโหมด AUTO กับโหมดบุคคล

ทดสอบถ่ายภาพภายในอาคาร WB ยังถือว่าดีมากๆ ให้สีตรงกับที่มองเห็น

ทดสอบโหมด AUTO เปิด AI ภาพที่ออกมาถือว่าสวยงามมาก ไม่ดึงสีขึ้นจนเยอะเกินไป ภาพออกมาดูสวยสบายตาดี

ทดสอบโหมด AUTO และโหมด Wide-angle

กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มี A.I. Beauty เข้ามาช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ สามารถเลือกปรับความสวยของใบหน้าได้ และมีฟิลเตอร์ให้เลือกปรับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า OPPO Reno6 Z 5G โหมด AUTO

ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังละลาย

ใช้ฟิลเตอร์ภายในแอพ

แบตเตอรี่

OPPO Reno6 Z 5G ให้แบตเตอรี่มาที่ 4300mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0 หลังจากที่ทดลองใช้งานมา สามารถใช้งานเช้าถึงก่อนนอนได้สบายๆครับ ส่วนหนึ่งเพราะชิปที่ใส่มาเป็นตัวที่ใช้พลังงานต่ำด้วยและระบบจัดการพลังงานของ OPPO Reno6 Z 5G ก็จัดการได้ดีจริงต้องยอมเขา ใช้งานมาอาทิตย์นึงแบตไม่ไหลให้เห็น หมดกังวลเมื่อนำออกไปใช้งานนอกบ้าน

สรุป

การถ่ายภาพแนว Portrait อาจไม่ใช่เรื่องใหม่แล้วในเวลานี้ใครๆก็ถ่ายได้ แต่สำหรับ OPPO Reno6 Z 5G สามารถถ่ายได้สวยงามและดูเป็นธรรมชาติดีในเรทราคาเท่าๆกัน ทาง oppo เองอาจจะโฟกัสไปทางกล้องหลังมากเกินไป แต่อยากจะบอกว่า กล้องหน้าของรุ่นนี้ถ่ายออกมาสวยมากไม่เสียชื่อเจ้าตลาดด้านการเซลฟี่ครับ

ยุคนี้กล้องสวย ลูกเล่นเยอะ บอกเลยว่าของมันต้องมี เอาไว้ถ่ายลงสตอรี่ ลงโซลเชียลมีเดีย รุ่นนี้ถ่ายสวยดีต่อใจจริง

Related articles

รีวิว iQOO 15 ตัวแรงสายเกม สเปคจัดเต็มชิปตัวท็อปแบตอึด 7000 mAh แล้วยังชาร์จไว 100W!!

มาแล้วว !! อีกหนึ่งมือถือตัวแรงส่งท้ายปี ที่เหล่าเกมเมอร์หลายคนรอคอย กับ iQOO 15 ซึ่งรอบนี้สเปคเขาสมกับการเฝ้ารอจริง ๆ...

รีวิว ASUS ExpertCenter P500 SFF คอมสำนักงาน ที่ต้องการความแรง + ทนทาน

ในยุคที่หลายคนพูดถึงความคล่องตัวของ Laptop …แต่ผมบอกเลยว่ายังไง PC ก็ยืดหยุ่น และใช้งานได้นานกว่า หลายครั้งที่เรากำลังหาคอมพิวเตอร์มาใช้งานในสำนักงานสักเครื่อง ต้องบอกว่า มันมีหลายปัจจัยมากๆ...

HOW TO – ไล่ล่าหา CVE ตัวแรก บน Wordfence Bug Bounty Program ทำยังไงไปดู !!

ในที่สุดหลังจากรอมานาน ตอนนี้แอดได้รับการเผยแพร่ CVE อย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้น แอดก็จะสามารถเขียนเนื้อหาได้แบบจัดเต็ม เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าไปหามายังไง และใช้แพลตฟอร์มไหนครับ แต่ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจนิยามแต่ละอย่างกันก่อน...

Review: รวมประสบการณ์สอบ Academic Cert ทุกใบ จากค่าย TCM Security !!

กว่าจะสอบผ่านตัวละตัวเลือดตาแทบกระเด็น แต่ในที่สุดแอดก็สามารถความใบเซอร์จากค่าย TCM Security ได้จนครบแล้ว !! จริง ๆ ยังเหลืออีกใบ คือ...

[HOW TO] สร้าง QR Code เพื่อแชร์ Wi-Fi ให้เพื่อนได้ง่าย ๆ บน Windows 11

สำหรับใครที่เปิดคาเฟ่, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ หรือแม้ในบ้านที่มีคนมาขอใช้ Wi-Fi เยอะ ๆ แล้วเราขี้เกียจบอกรหัสผ่านซ้ำ ๆ...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า