เปิดตัวพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ vivo X60 Pro 5G กับค่าตัวที่ 24,999 บาท โดยรุ่นนี้ชูจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพจากกล้องหลัง ที่มาพร้อมกับระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0 และเป็นครั้งแรกของทางค่ายที่ได้ร่วมมือพัฒนาร่วมกันกับทาง ZEISS ผู้ผลิตเลนส์แบรนด์ดังระดับโลกจากเยอรมัน
สำหรับ vivo X60 Pro 5G ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่ยกระดับเรื่องการถ่ายภาพให้สูงมากขึ้น ตามคอนเซ็ป Professional Photography ไม่เพียงแค่การถ่ายภาพ แต่สเปคอื่นๆให้มาจัดเต็มเช่นเดียวกันไม่แพ้เรื่องการถ่ายภาพ เดี่ยวเราไปดุการใช้งานจริงพร้อมๆกันได้เลยครับ
SPEC Vivo X60 Pro
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2376×1080 พิกเซล อัตรา Refresh Rate 120Hz
- รองรับ Dual 5G
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 870
- RAM 12 GB
- ROM UFS3.1 ขนาด 256 GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1
- กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 3 เลนส์ (เลนส์ ZEISS) ความละเอียด 48+13+13 ล้านพิกเซล
- ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- แบตเตอรี่ 4,200mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W
- ราคา 24,999 บาท
แกะกล่องเช็คของ
อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดมีดังนี้
- ตัวเครื่อง ติดฟิมล์ป้องกันรอยขีดข่วนมาให้เรียบร้อย
- Adapter รองรับชาร์จเร็ว 33W
- สาย USB Type-C
- หูฟัง
- เคสใส
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือการใช้งาน
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
vivo X60 Pro 5G มาพร้อมก้บหน้าจอแบบ AMOLED Flexible Screen เทคโนโลยีการออกแบบ COP ช่วยให้ขอบด้านข้างทั้งสี่ด้านเหลือพื้นที่น้อยมากๆ
หน้าจอแบบ 3D Curved ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2376×1080 พิกเซล อัตรา Refresh Rate 120Hz และ Response Rate 240Hz ช่วยให้การแสดงภาพสมูทยิ่งขึ้นรวมไปถึงการทัชที่แม่นยำขึ้นเหมาะสำหรับสายเกมเป็นอย่างยิ่ง. vivo ยังได้พัฒนาร่วมมือกับ Qualcomm เรื่องหน้าจอแสดงผลจึงได้จอแบบ LTM Display ที่รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ ได้ รองรับขอบเขตสี DCI-P3 ค่าความสว่างสูงสุด 1300nits เหมาะสำหรับการรับชมคอนเท็นต่างๆ เช่น youtube และ netflix โดยเฉพาะ netflix จะสามารถรับชมความละเอียดสูงถึง FHD ในรูปแบบ HDR ด้วยครับ
หน้าจอยังรองรับ SGS Eye Care Display และการรับรอง SGS Seamless สำหรับช่วยถนอมสายตาและในส่วนของการนำเครื่องออกไปใช้งานนอกอาคาร หน้าจอยังสามารถแสดงผลได้คมชัด สีสันสวยงาม
หน้าจอยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจออีกด้วย ระยะเวลาและการสแกนถือว่ารวดเร็วและแม่นยำใช้ได้เลย
การดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Ultra Slim ที่เน้นความบางและเบาเป็นพิเศษ โดยมีความบางของตัวเครื่องเพียงแค่ 7.69 มม. น้ำหนัก 179 กรัม ด้านหลังตัวเครื่องแบบ AG Glass 3D Curved มีการเคลือบผิวแบบพิเศษช่วยให้ตัวเครื่องมีสีที่เหลื่อมล้ำดูสวยงาม และฝาหลังยังถูกเคลือบผิวเพื่อป้องกันรอยนิ้วมือมาให้เป็นอย่างดี ช่วยลดรอยนิ้วมือได้ดีมากๆ
การวางกล้องแบบ Dual-Tone Step จะวางเลนส์กล้องทั้งสามตัวในระนาบเดียวกันและถัดลงจะอีกชั้นจะเป็นตำแหน่งของไฟแฟลช LED พร้อมตัวหนังสือ ZEISS Vario-Tessar
ด้านล่างตัวเครื่องจะมีถาดซิมการ์ด / ไมค์สนทนา / พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวเครื่อง
ถาดซิมการ์ดรองรับ nano sim ทั้งหมดสองช่องนะครับ ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD Card ได้
ฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม Power
ส่วนของด้านบนตัวเครื่องทาง vivo เรียกกว่า Choker เป็นการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของทาง X-series เองพร้อมกับตัวอักษร Professional Photography และจะมีไมค์ตัดเสียงรบกวนมาให้
ฝั่งซ้ายจะไม่มีพอร์ตอะไรมาให้นะครับ จะมีแค่แถบตัวรับสัญญาณเท่านั้น
vivo X60 Pro 5G จะวางจำหน่ายแค่เพียงสีเดียวเท่านั้นในตอนนี้คือสี Shimmer Blue ขนาดตัวเครื่องที่เน้นความบางเบาทำให้ตัวเครื่องมีขนาดเพียง 158.58 × 73.24 × 7.69มม.น้ำหนัก 179 กรัม (เมื่อถือใช้งาน)
ระบบปฏิบัติการ
vivo X60 Pro 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1 ส่วนการทำงานพิเศษที่เพิ่มเข้ามาให้คือผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Jovi ที่จะคอยแจ้งเตือนและแนะนำวิธีการใช้งานและข้อเสนอแนะต่างๆให้เราทราบ ตัวเครื่องรองรับการใช้งานแอพคู่ได้(บางแอพ) และยังมีธีมสวยๆไว้ให้เลือกเปลี่ยนใช้งานเช่นเดิมครับ มีทั้งแบบฟรีและเสียงตังค์นะครับ
ฟังก์ชั่นพิเศษอย่าง vivo Cloud ที่เก็บสำรองข้อมูล / iManager ตัวจัดการของตัวเครื่อง
ประสิทธิภาพการทำงาน
vivo X60 Pro 5G มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 870 แบบ Octa-Core ความเร็วสูงสุด 3.2GHz / GPU Adreno 650 เป้นชิปประมวลผลที่ทำงานดีมากๆ ให้ประสิทธิภาพสูงแทบจะไม่แพ้ตัวพี่อย่าง Snapdragon888 (แต่ที่เห็นชัดคือระบบระบายความร้อย ทำได้ดีกว่ามาก ตัวเครื่องแทบไม่ร้อนเมื่อใช้งานเป้นเวลานานๆติดต่อกัน พร้อมกับใช้พลังงานน้อยมากๆ)
ชิปประมวลผลที่รองรับการใช้งาน 5G ทั้งสองซิม แค่แกะกล่องตัวเครื่องก็พร้อมใช้งานส่วนของ 5G ได้เลยครับไม่ต้องรออัพเดทเพิ่ม (5G ที่รองรับ n1/n3/n7/n28/n40/n41/n78)
หน่วยความจำ
สำหรับ vivo X60 Pro 5G จะมากับ RAM LPDDR5 มาที่ 12 GB และจะมีฟังก์ชั่นขยายแรมโดยดึงพื้นที่หน่วยความจำหลักมา 3GB ทำให้ตัวเครื่องมีแรมทั้งสิ้น 12+3 = 15GB
หน่วยความจำภายในแบบ UFS3.1 ที่สามารถอ่านและเขียนข้อมูลความเร็วสูง ให้มาที่ 256 GB
สำหรับการเล่นเกม อย่างที่แจ้งไว้แต่แรกว่าชิปประมวลผลชุดนี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและควบคุมอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ทำให้การเล่นเกมไหลลื่นผนวกกับหน้าจอแบบ 120Hz ยิ่งช่วยให้การแสดงผลไหลลื่นมากๆ จะมี Ultra Game Mode เข้ามาช่วยจัดการตัวเครื่องขณะเล่นเกม
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.45 โหมดการถ่ายภาพหลักๆ โหมดกลางคืน/โหมดบุคคล/ถ่ายภาพ auto / ถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด FHD
ด้านการปรับบิวตี้ / ปรับความเบลอของฉากหลัง รวมไปถึงเลือกสไตล์รูปภาพและปรับฟิวเตอร์จากกล้องหน้ายังมีมาให้ครบเช่นเดิมนะครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าโหมด AUTO
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าโหมดบุคคลปรับหน้าชัดหลังละลาย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าโหมดปรับฟิลเตอร์ภายในกล้อง
กล้องหลังเป็นครั้งแรกที่ทาง vivo ได้ร่วมมือพัฒาร่วมกับทาง ZEISS ผู้ผลิตเลนส์แบรนด์ดังระดับโลกจากเยอรมัน โดยจะใช้เลนส์ของ ZEISS ทั้งหมด 3 เลนส์และมีระบบกันสั่นที่ถูกพัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนมาเป็น Gimbal Stabilization 2.0 เป็นระบบกันสั่นด้วย HW ของสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในตอนนี้ ส่วนของการถ่ายวิดีโอจะมีกันสั่นแบบ 5 แกน เข้ามาช่วยขณะบันทึกวิดรโอด้วยครับ
การทำงานของเลนส์แบ่งได้ดังนี้
จุดเด่นของกล้องถ่ายภาพ vivo X60 Pro 5G คือโหมดถ่ายบุคคลในระยะเลนส์ 50 มม.จะช่วยให้การถ่ายภาพบุคคลสามารถแยกฉากหลังได้สวยเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น สามารถปรับความเบลอของฉากหลังได้อย่างอิสระ ทั้งก่อนและหลังการถ่าย
พิเศษสุดคือระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0 จะช่วยให้ภาพคมชัดยิ่งขึ้นและมีระบบโฟกัสที่ดวงตาช่วยให้การจับใบหน้ามีความแม่นยำสูง หน้าไม่หลุดเฟรม
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดบุคคลของ (ZEISS Bioter Portrait)
ภาพถ่ายโหมด AUTO
ภาพถ่าย Zoom2X ปรับ AUTO (ถึงจะซูมระดับ 2 เท่า แต่รายละเอียดของภาพและสีแทบจะไม่มีดร๊อปเลยครับ)
ภาพถ่ายโหมดกลางคืน
ภาพถ่ายโหมดกลางคืนปรับพาโนรามา
ภาพถ่ายโหมดเลือกปรับตั้งค่าเอง
แบตเตอรี่
vivo X60 Pro 5G ถึงจะมากับตัวเครื่องที่บางและเบาแต่ให้แบตเตอรี่มาที่ 4200mAh รองรับชาร์จเร็วที่ 33W เท่าที่ใช้งานมาเป้นสมาร์ตโฟนระดับเรือธงอีกหนึ่งรุ่นที่แบตอึดมาก สามารถใช้งานเช้าถึงก่อนนอนสบายๆ ผมเอาออกไปถ่ายรูปทั้งวันแบตยังเอาอยู่ ประทับใจมากๆเลยครับเรื่องแบต แรกๆเห็นจำนวนตัวเลขของแบตดูแอบน้อยไปนิด แต่พอใช้งานจริง บอกได้คำเดียวว่าระบบจัดการพลังงานทำได้ดีมากๆ
สรุป
vivo X60 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ถ่ายภาพได้สวยคมชัดมากๆ โดยเฉพาะการถ่ายภาพบุคคล(ZEISS Bioter Portrait) แยกบุคคลกับฉากได้สวยงามมากๆและยังสามารถปรับได้ทั้งก่อนและหลังการถ่ายภาพได้ด้วย ส่วนโหมด AUTO ความผิดเพี้ยนของสีน้อยมาก ไม่ว่าจะถ่ายในที่แสงน้อยหรือย้อนแสง พร้อมกับระบบกันสั่นที่ถูกพัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนทำให้การถ่ายภาพคมชัดยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ชอบการถ่ายภาพ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ในส่วนของประสิทธิภาพโดยรวมและจอแสดงผล ถือว่าให้มาดีแทบจะทุกจุด กับค่าตัวที่ 24,999 บาท ถือว่าคุ้มค่าแน่นอนครับ
You must be logged in to post a comment.