รีวิว OPPO Reno3 Pro สมาร์ทโฟนกล้องหน้าคู่ ความละเอียดสูงสุด 44 MP

OPPO Reno3 Pro มากับกล้องหน้าคู่ AI ความละเอียดสูงสุด 44 ล้านพิกเซล เซลฟี่สวยคมชัดทุกรายละเอียด พร้อมกับกล้องหลัง 4 เลนส์ถ่ายสวยทุกระยะ ซูมไกลสุด 20x แบบดิจิตอล หน้าจอ Super AMOLED Display สวยคมชัด แสดงสีตรงมาตราฐาน DPI-C3 100% ค่าความสว่างสูงถึง 1200nit

ชิปประมวลผลจะมากับ CPU Mediatek Helio P95 12nm octa-core / RAM LPDDR4X ขนาด 8 GB / ROM UFS 2.1 ขนาด 256GB รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอก สามารถใช้งานได้ยาวนานกับแบตเตอรี่ 4,025 mAh และมาพร้อมกับ VOOC Flash Charge 4.0 ทั้งหมดนี้แลกกับค่าตัวที่ 18990 บาท จะคุ้มค่าขนาดไหนไปดูพร้อมกันได้เลยครับ

SPEC OPPO Reno3 Pro

จอแสดงผลแบบ Punch-Hole Display พาแนลจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2400×1080 ล้านพิกเซล
ชิปประมวลผล CPU Mediatek Helio P95 12nm octa-core 2.0 GHz
GPU PowerVR GM 94446
RAM LPDDR4X ขนาด 8 GB
ROM UFS 2.1 ขนาด 256GB รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอก
กล้องหน้าคู่ 44+2 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 64 + 13 + 8 + 2 ล้านพิกเซล
ระบบปฏิบัติการ Android 10
ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ / ระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค
Bluetooth 5.0 / WiFi 2.4-5.0 GHz
ระบบเสียง Dolby Atmos / รองรับการเล่นเสียงระดับ Hi-Res
แบตเตอรี่ 4,025 mAh พร้อมชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 4.0 กำลังไฟ 30 วัตต์
ขนาดตัวเครื่อง 158.8 × 73.4 × 8.1 มม. น้ำหนัก 175 กรัม
ราคา 18,990 บาท สีที่วางจำหน่าย Auroral Blue, Midnight Black, Sky White

แกะกล่องเช็คของ

อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้

ตัวเครื่อง OPPO Reno3 Pro
Adapter รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 4.0 กำลังไฟ 30 วัตต์
สาย USB Type-C รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge
หูฟังแบบ Earpod
เคสใส TPU
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

OPPO Reno3 Pro มากับจอ Super AMOLED Display ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2400×1080 ล้านพิกเซล ที่แสดงสีสันสดใส คมชัดทุกรายละเอียด ค่าแสดงสี DPI-C3 100% ค่าความสว่างสูงถึง 1200nit สามารถนำออกไปใช้งานข้างนอกจอยังแสดงผลได้สวยงามเช่นกัน ขนาดหน้าจอ 6.4″ อัตราส่วน 20:9 และสัดส่วนพื้นที่หน้าจอที่ 91.5% ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5

หน้าจอยังรองรับระบบสแกนลายนิ้วใต้หน้าจอ Hidden Fingerprint Unlock 3.0 ความเร็วสามารถปลดล็อคได้ภายในเวลา 0.34 วินาที

หน้าจอยังมีโหมดกลางคืน(Dark Mode)และโหมดช่วยถนอมสายตามาให้ ป้องกันแสงสีฟ้าผ่านการรับรองโดย TÜV Rheinland

หน้าจอแบบเจาะรูบนจอ Dual Punch-Hole ซ่อนกล้องหน้าไว้ภายใน กล้องหน้าความละเอียด 44+2 ล้านพิกเซล ถัดขึ้นไปขอบจอจะเป็นส่วนของลำโพงสนทนา ส่วนเซ็นเซอร์วัดแสงจะถูกซ่อนไว้ใต้จอ

ด้านล่างจะมีพอร์ตช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. / ไมค์สนทนา / USB Type-C และลำโพงตัวเครื่อง

ฝั่งขวาจะเป็นปุ่ม POWER หรือสามารถตั้งค่าให้เป็นปุ่มลัดเพื่อใช้งาน google assistant ได้เช่นกัน

ด้านบนจะมีไมค์ตัดเสียงรบกวน

ด้านฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งของถาดซิมการ์ดและปุ่มปรับระดับเสียง

ถาดซิมแบบ 3 สล็อต รองรับ 2 micro sim และ 1 microSD Card

ฝาหลังเน้นความโค้งมนเพื่อการหยิบจับใช้งานง่ายและดูมีความพรีเมียมของตัวเครื่อง โมดูลกล้องจะอยู่มุมด้านบน กล้องหลัง 4 เลนส์พร้อมไฟแฟลช LED อยู่ข้างๆ และจะมีแค่ชื่อแบรนด์เท่านั้นครับ วัสดุฝาหลังทำมาจากวัสดุโพลีคาร์บอเนตเคลือบผิวเล่นระดับดูสวยงาม เงาสะท้อนรับแรงบันดาลใจมาจากความแตกต่างของท้องฟ้าในช่วงเวลาต่างๆกันออกไป สีที่ผมรีวิวจะมีสองสีคือ Auroral Blue, Midnight Black

ขนาดตัวเครื่อง 158.8 × 73.4 × 8.1 มม. น้ำหนัก 175 กรัม เมื่อถือใช้งาน

ระบบปฎิบัติการ

OPPO Reno3 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7 ตัวใหม่ล่าสุดเน้นความง่าย สะดวกสบายในการใช้งาน เครื่องมือต่างๆที่จำเป็นมีมาให้ครบ ทั้งการลากนิ้วเพื่อแค๊ปหน้าจอ แค๊ปหน้าจอแบบยาว และปุ่มเข้าใช้งานแบบพิเศษ

สามารถแบ่งหน้าจอใช้งานได้และโหมดโคลนแอ๊ปยังมีมาให้ใช้งานเช่นเดิม

ประสิทธิภาพการทำงาน

OPPO Reno3 Pro มาพร้อมกับชิปประมวลผล CPU Mediatek Helio P95 12nm octa-core 2.0 GHz / GPU PowerVR GM 94446 รองรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมได้ดีในระดับหนึ่งครับ

RAM LPDDR4X ขนาด 8 GB / ROM UFS 2.1 ขนาด 256GB รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอก

สำหรับการเล่นเกมจะมีฟังก์ชั่น Game Space เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขณะเล่นเกมให้ดีขึ้นกว่าเดิม

กล้องถ่ายรูป

มาถึงจุดขายของ OPPO Reno3 กันแล้วกับกล้องหน้าคู่ (Dual Punch-hole) ความละเอียด 44+2 ล้านพิกเซล แบ่งออกเป็น

เลนส์หลัก ความละเอียด 44 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

สามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ดูเป็นธรรมชาติและสวยงามตัววัตถุไม่ลอยเด่นจนเกินไป ระบบ AI อัจฉริยะที่ฉลาดขึ้น ทำงานเร็วขึ้นและสามารถปรับใบหน้าส่วนต่างๆได้เอง

เทคโนโลยี New Multi-frame Composition การถ่ายภาพหลายเฟรมแล้วมารวมกันเพื่อให้ภาพชัดขึ้น และโหมด Ultra Night Selfie สำหรับการเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือกลางคืน

โหมดการถ่ายภาพต่างๆของกล้องหน้า

ภาพถ่ายจากกล้องหน้า OPPO Reno3 Pro

กล้องหลังก็จัดเต็มมาให้เช่นกันกับกล้องหลัง 4 เลนส์ แบ่งออกเป็น

เลนส์ Telephoto 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
เลนส์หลัก ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7
เลนส์ Mono 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
เลนส์ Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้าง 119.9 องศา

ความสามารถพิเศษของกลุ้องหลังคือสามารถซูมแบบ 5x Hybrid Zoom และ 20x Digital Zoom

ระบบ AI ที่ฉลาดขึ้น สามารถวิเคราะห์วัตถุและฉากหลังได้อย่างแม่นยำขึ้น

ภาพถ่ายโหมด AUTO เปิด AI

ภาพถ่ายโหมดบุคคล สามารถเปิด AI Beauty ได้และยังสามารถปรับความหน้าชัดหลังเบลอได้

โหมดสติ๊กเกอร์ เพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพ

ภาพถ่ายโหมด AUTO และ Ultra Wide

ภาพถ่ายโดยการซูม

AUTO 1x

ภาพถ่าย Zoom 2x

ภาพถ่าย Zoom 5x

ภาพถ่าย Zoom 20x (Digital Zoom)

แบตเตอรี่

OPPO Reno3 Pro ให้แบตเตอรี่มาที่ 4,025 mAh และมาพร้อมกับ VOOC Flash Charge 4.0 ขนาดกำลังไฟ 30 วัตต์ สามารถชาร์จจาก 0-100% ราวๆ 50 นาที เท่าที่ทดสอบใช้งาน แบตเตอรี่สามารถใช้งานครบวันแบบสบายๆ หมดกังวลเรื่องการนำออกไปใช้งานนอกบ้านได้เลย

สรุป

OPPO Reno3 Pro มาพร้อมกับจุดเด่นและจุดขายเรื่องกล้องหน้าคู่ความละเอียดสูงสุดในบ้านเราเวลานี้ กล้องหน้าเซลฟี่สวยตามแบบฉบับ ซึ่งทาง oppo เองก็ถนัดด้านนี้จนเป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว(ถ้าหากล้องหน้าสวยๆถูกใจสาวๆต้องนึกถึง oppo) แต่พิเศษไปอีกของรุ่นนี้คือมีเลนส์ Depth มาให้ด้วย สามารถเซลฟี่ปรับหน้าชัดหลังละลายได้สวยขึ้น เรื่องการเซลฟี่ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ส่วนกล้องหลัง 4 เลนส์ก็ถ่ายออกมาได้สวยไม่แพ้กล้องหน้าครับ

หน่วยความจำขนาดใหญ่ 8/256 GB เพียงพอสำหรับการใช้งานและเก็บข้อมูล แบตเตอรี่มาที่ 4,025 mAh ใช้งานได้ครบวันและมีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 4.0 สำหรับค่าตัวที่ 18,990 บาท ก็ถือว่าราคาค่อนข้างสูงไปนิด แต่ก็ได้กล้องที่สวยและหน่วยความจำขนาดใหญ่ขึ้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนชอบการเซลฟี่

พิเศษสุด สำหรับสั่งจองล่วงหน้า Pre-Order ตั้งแต่วันนี้ถึง 7 พฤษภาคม 2563 จะได้รับของสมนาคุณพิเศษรวมมูลค่าของแถมทั้งหมด 7,990 บาท