Samsung เปิดตัวมอนิเตอร์จอโค้งใหม่รุ่น CFG70

Samsung เปิดนวัตกรรมใหมแห่งโลกจอภาพมาในรูปแบบจอโค้งภาพคมชัดสีสรรชัดเจนสำหรับเกมส์มิ่งโดยเฉพาะ เป็นมอนิเตอร์ที่สุดล้ำที่สุด ณ วันนี้ มาในชื่อรหัส CFG70 (ขนาด 24 และ 27 นิ้ว) และ CF791 (34-นิ้ว) ด้วยค่าโค้งงอที่ 1800R และ 1500R. มาพร้อมระบบ interactive LED lighting/ปรับตามสภาพ, ส่วนควบคุมที่ใช้งานง่าย, และ AMD FreeSync Technology สำหรับการเล่นเกมส์.

“มาพร้อมกับระบบ quantum dot technology ที่พบเห็นได้ในเครื่องรับทีวี, CFG70 และ CF791 ทั้งสองรุ่น ออกแบบมาเพื่อความสมจริงแห่งภาพโดยเฉพาะกับเกมส์มิ่งโดยเฉพาะ,” กล่าวโดย นาย Andrew Sivori, Vice President, Consumer IT Marketing at Samsung Electronics America/รองประธาน. “นอกเหนือไปจากนั้น, ทางเรายังมุ่งเน้นถึงสีที่จะถูกขับถ่ายออกมาต้องแม่นยำ ภาพสมจริงให้สมกับที่เป็นจอโค้ง และลดอาการผิดเพี้ยนออกไปให้ได้มากที่เป็นไปได้ MPRT (Moving Picture/Pattern Response Time).”

Quantum Dot Technology
ระบบ visual power of quantum dot technology ได้ถูกคิดค้นโดยทาง Samsung และได้รับรางวัลในด้านอุตสาหกรรมทางด้านเป็นผู้นำ UHD televisions ก็ได้นำเทคโนโลจีนี้มาใส่ไว้ใน CFG70 และ CF791 monitors. โดยการผสมผสานเทคโนโลจีของ quantum dot technology เข้าไปสู่จอมอนิเตอร์ทำให้ขอบเขตของสีสรรของภาพนั้นคมชัดมากยิ่งขึ้น, แต่ใช้พลังงานน้อย. ทั้งสองรุ่นสามารถขับสีสรรออกมาได้ดีกว่าถึง 125 เปอร์เซนต์ หากเทียบกับ sRGB spectrum, ทำให้ภาพดูมีมิติที่คมลึกมากยิ่งขึ้น. ด้วยสีสรรที่ได้มานั้นมีความแตกต่างที่มากขึ้นในเฉดและโทนสี ทำให้การเล่นเกมส์นั้นไม่ต้องกล่าวเลยว่ามันจะดีกว่ามอนิเตอร์ทั่วไปในท้องตลาดมากขนาดไหน. นอกเหนือจากนั้น, มอนิเตอร์รุ่นนี้ยังเป็นรุ่นแรกๆที่เป็น quantum dot curved displays ที่ปราศจากการนำมาใช้ซึ่ง cadmium-free design, และจะเป็นแบบนี้กับสินค้าของทาง Samsung 2016 SUHD TVs ทั้งหมดด้วย.

Stunning Visual Experience/ตื่นตาตื่นใจกับภาพที่ได้รับชม
CF791 และ CFG70 ได้นำเอา AMD FreeSync Technology มาไว้ใน HDMI เพื่อ synchronize/กระทำ screen refresh rates (ระหว่าง 100 Hz สำหรับ CF791 และ 144 Hz สำหรับ CFG70) ทำงานร่วมกับ AMD graphics cards. มีขีดความสามารถทางด้านลดการดีเลย์/input latency, ภาพกระตุก หรือช้าเพื่อการให้ได้รับชมภาพที่สมจริงในเกมส์เพลย์.

มอนิเตอร์แต่ละรุ่นมาพร้อมค่าโค้งงอที่ 1,500R สำหรับ CF791 และ 1,800R สำหรับ CFG70), ซึ่งจะโอบล้อมผู้ใช้ให้ไปเป็นส่วนหนึ่งในเหตุการ์ณของเกมส์เพลย์เลยทีเดียว. ค่าตอบสนองอยู่ที่ 1 m/s MPRT rate, ในรุ่น CFG70 display ยังมาพร้อมตัวช่วย ระหว่างมีการเปลี่ยนแปลงหรือเซ็ตค่าใหม่ผู้ใช้จะไม่เห็นความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนค่าในเกมส์เพลย์เพื่อให้เกิดความรำคาญใจแน่นอน.

นอกเหนือจากนั้น, ทั้งสองรุ่นยังถูกออกแบบมาเพื่อลดอาการเมื่อยล้าสายตาหากอยู่หน้ามอนิเตอร์เป็นเวลานานระหว่างเกมส์เพลย์. โดยทั้งทั้งสองรุ่น CF791 และ CFG70 มาพร้อม blur reduction technology ระบบ backlights จะทำงานทันทีหากภาพปรากฎบนจอ. และยังมีระบบ integrated line scanning technology ซึ่งจะแบ่ง backlight ออกมาเป็น 4 channels และจะถูกเรียงเป็นลำดับเพื่อให้ได้ค่าที่ตรงตามภาพที่ปรากฎบนจอ. การกระทำ/synchronization เช่นนี้ช่วยลดอาการภาพเบลอ/visible blur และภาพจะถูกขับออกมาสมจริงไม่กระตุก และไม่ขาด.

Enhanced Features/ขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้น
นอกเหนือจากสิ่งที่ได้กล่าวไปแล้วกับทางด้านเพิ่มขีดความสามารถให้กับคุณภาพของภาพแล้ว, Samsung CF791 monitor ยังมาพร้อมรูปทรงที่เข้ากับยุคสมัย. การออกแบบขอบทั้งสามด้านนั้นจะไม่ไปสะดุดต่อสายตาผู้ใช้ ขอบทั้งสามออกแบบมาเป็นผิวเดียวกับจอภาพ ผู้ใช้ยังสามารถปรับมุมองศาและสูงต่ำได้ตามใจชอบ.

เพื่อให้การปรับแต่งนั้นง่ายขึ้นสำหรับการเล่นเกมส์, CFG70 มาพร้อม Samsung’s user-friendly Gaming UX OSD interface/ส่วนควบคุมที่ใช้งานง่าย. ในขณะที่เกมส์เมอร์กำลังอยู่ในระหว่างการเล่นเกมส์หรือแข่งขันสามารถเข้าถึงแผงควบคุมได้ง่ายเพื่อที่จะดูค่าการปรับแต่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น response time สำหรับ refresh rate, สามารถทำได้เพียงแค่เหลือบไปดูเท่านั้น. Gameplay settings สามารถปรับแต่งได้จาก shortcut hot keys ที่อยู่ทางด้านหน้าและหลังมอนิเตอร์. นอกเหนือไปจากนั้น, การปรับเอียงจอภาพนั้นมีข้อต่อลักษณะพิเศษที่ไม่อาจจะมองเห็นได้เพราะเป็นเหมือนลูกบอลที่ต่อเชื่อมกัน สามารถปรับสูงต่ำ เอียงหรือหมุนได้ โดยที่ไม้ต้องขยับฐานเลย. CFG70 ยังมาพร้อม interactive LED “Arena Lighting” เพื่อการเล่นเกมส์ที่จะได้ภาพสีสดแจ่มชัดในเกมส์เพลย์.