นี่คือไอเทมหนึ่งที่สายทำงาน สายสตูดิโอ และสายธุรกิจไม่ควรพลาด Synology RackStation RS1221+ เครื่อง NAS ตัวเทพ ปกป้องทุกข้อมูล ทำงานได้ทุกที่ไร้ขีดจำกัด บอกเลยว่าของมันต้องมีนะคร้าบบบ
ทำไมต้องใช้ NAS
เดี๋ยวผมขอเล่าให้ฟังสักนิดนึง ว่าทำไมเราถึงควรมี NAS ติดไว้ในองค์กรสักเครื่อง จริง ๆ เทคโนโลยีนี้มันมีมานานแล้วนะครับ มันคือโซลูชันที่ให้เราสามารถจัดเก็บงานลงบนฮาร์ดไดรฟ์ได้ ผ่านการรับส่งไฟล์ทางอินเทอร์เน็ต พูดง่าย ๆ มันคือ Google Drive ในแบบฉบับที่เราจับต้องได้และเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว!!
ก่อนหน้านี้ผมมีงานที่ต้องจัดการอยู่ไม่มาก ทำให้การรับส่งไฟล์ผ่านการแชร์ลิงก์ของ Google Drive ทำได้ง่าย แต่พักหลัง ๆ ไฟล์วิดีโอเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และมีงานที่ต้องเก็บสำรองไว้ ประกอบกับทีมงานมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้การบริการจัดการไฟล์ผ่าน Google Drive ทำได้ยาก รวมถึงการเพิ่มขนาดพื้นที่ก็ไม่อิสระเท่าที่ควร
และนี่จึงเป็นที่มาของการใช้งาน Synology NAS ของผม ซึ่งมีจุดเด่นที่เราสามารถจัดการพื้นที่ของฮาร์ดไดรฟ์ได้ง่ายกว่า เพียงแค่ซื้อไดรฟ์ขนาดที่ต้องการมาใส่ก็ได้พื้นที่เพิ่มขึ้นแล้ว นอกจากนี้เรายังจัดการการเข้าถึงของทีมงานได้ง่ายกว่าด้วย
แต่นอกเหนือจากการนำมาใช้เก็บงานแล้ว NAS ยังมีประโยชน์ในอีกหลาย ๆ งานครับ เช่น ใช้ทำ Virtual Machine สำหรับรันระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกันในสำนักงาน, ทำเป็นพื้นที่จัดเก็บอีเมลธุรกิจ หรือใช้เป็นพื้นที่เก้บข้อมูลสำหรับกล้องวงจรปิดก็ได้ครับ
สายธุรกิจทำไมต้องมี Synology RackStation RS1221+
ทีนี้เรามาดูกันว่าทำไมสายทำงาน สายสตูดิโอ หรือสายธุรกิจจึงเหมาะกับ Synology RackStation RS1221+ ผมขอแปะสเปกไว้ตรงนี้ก่อนแล้วเราไปดูทีละส่วนกันเลยครับ
การออกแบบ
ตัวเครื่อง Synology RackStation RS1221+ จะมีลักษณะ Rack เหมือนเราเตอร์สวิตช์ของเซิร์ฟเวอร์นี่แหละ เพิ่มความสะดวกสบายในการติดตั้งในตู้ควบคุมในสตูดิโอหรือสำนักงานได้ ขนาดกะทัดรัดด้วยความยาวเพียง 30 เซนติเมตร ไม่ได้กินพื้นที่เท่าไร
การติดตั้ง สามารถทำได้ทั้งแร็ค 19 นิ้ว แบบ 4 เสา (Synology Rail Kit – RKM114/RKS-02) หรือแร็ค 19 นิ้ว แบบ 2 เสา (ติดตั้งโดยตรง) มาพร้อมช่องใส่ฮาร์ดดิสก์สูงสุด 8 ช่อง พร้อมไฟแสดงสถานะการทำงานครบถ้วนครับ
ประสิทธิภาพ
Synology RackStation RS1221+ มาพร้อมแกนประมวลผล AMD Ryzen V1500B 2.2 GHz ซีพียู 4-Core ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการประมวลผลการทำงานต่าง ๆ ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนใหญ่ที่เราเจอพวก NAS ทำงานช้า ๆ กัน เพราะตกม้าตายกันที่ซีพียูนี่แหละ ซึ่ง 4-Core ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานที่มีการจัดเก็บข้อมูลเยอะ ๆ ครับ
หน่วยความจำใน Synology RackStation RS1221+ เป็นแรม ECC DDR4 เพิ่มความเสถียรในการทำงาน เริ่มต้นที่ขนาด 4GB และอัปเกรดแรมได้สูงสุดที่ 32GB ซึ่งถ้าเรามีแรมเพิ่มขึ้นก็จะช่วยให้การรับส่งข้อมูลดีขึ้น ลดความหน่วงในการจัดการข้อมูลครับ
ส่วนที่สำคัญที่สุดคือพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ใน Synology RackStation RS1221+ มีช่องให้ใส่ฮาร์ดไดรฟ์ 8 ช่อง สามารถใส่ได้ทั้ง 3.5″ SATA HDD, 2.5″ SATA HDD หรือ SATA SSD ขนาด 2.5 นิ้ว โดยให้ความเร็วในการอ่าน/เขียน (Throughput) สูงสุด 2,315/1,147 MB ต่อวินาที ความเร็ว IOPS การอ่าน/เขียนแบบสุ่มสูงกว่า 100K/54K เลยทีเดียว
นอกจากนี้ Synology RackStation RS1221+ ยังรองรับโซลูชันเสริม การ์ดอะแดปเตอร์แบบรวม M.2 SSD และ 10GbE ช่วยขยายขีดความสามารถการใช้ NAS ให้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่จะเป็นยังไงเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังในช่วงท้ายครับ
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย
แน่นอนว่าข้อมูลสำคัญที่สุด และทาง Synology เองก็ใส่ใจเรื่องนี้มาก นอกเหนือจากที่ Synology RackStation RS1221+ จะใช้แรมแบบ ECC ที่เพิ่มความเสถียรและลดความผิดพลาดในการทำงานแล้ว ยังมีโซลูชันอื่น ๆ เฉพาะของ Synology เพิ่มเข้ามาด้วยครับ
Hyper Backup เป็นโซลูชันการสำรองและกู้คืนข้อมูล เราสามารถสร้างปลายทางการที่จะใช้สำรองข้อมูลภายในเครื่อง, บนอุปกรณ์ Synology อื่น, เซิร์ฟเวอร์ rsync หรือปลายทางบนคลาวด์ เช่น Google Drive, Dropbox และ Synology C2 Storage ซึ่งเป็นปลายทางการสำรองข้อมูลสำหรับอุปกรณ์ Synology โดยเฉพาะ ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลให้เราได้ดีขึ้น
Snapshot Replication เป็นการกำหนดเวลาสำรองข้อมูลแบบ point-in-time ของโฟลเดอร์ที่ใช้ร่วมกัน ใช้เวลาในการทำงานต่ำและกู้คืนได้ภายในไม่กี่วินาที
Active Backup Suite ฟีเจอร์สำคัญโดยเฉพาะผู้ดูแลระบบที่ต้องจัดการโครงสร้าง IT ทั้งหมดขององค์กร เพิ่มความปลอดภัยด้วย Active Backup Suite โดยผู้ดูแลระบบสามารถทำการสำรองข้อมูลระบบ, SaaS หรือเวิร์กสเตชันและเซิร์ฟเวอร์ Windows และ Linux, Firewall, Virtual Machine แบบ VMware และ Hyper-V ไปจนถึงบัญชี Microsoft 365 และ Google Workspace ไปยัง NAS ได้อย่างง่ายดาย
และสุดท้ายแต่สำคัญมากกกก คือ การรับประกัน Synology RackStation RS1221+ มีประกันฮาร์ดแวร์อยู่ที่ 3 ปี และสามารถขยายการรับประกันเป็น 5 ปีได้ด้วย
โซลูชันเสริม
และแล้วก็มาถึง DLC เอ้ย!! โซลูชันเสริม การ์ดอะแดปเตอร์แบบรวม M.2 SSD และ 10GbE รุ่น E10M20-T1 สำหรับใช้เพิ่มประสิทธิภาพของ NAS เราให้ดียิ่งขึ้น แล้วมันดียังไงไปดูเลยครับ
ในตัวของการ์ดอะแดปเตอร์นี้จะมีพอร์ตแลน 10 Gigabit เผื่อใครต้องการทำ Multi-Gig ใช้เน็ตความเร็วสูงมาก ๆ ในการรับส่งข้อมูล เพราะอย่าลืมว่าเน็ตแรงจะช่วยให้ NAS เร็วขึ้นด้วย ดังนั้น ถ้าเราต้องการให้ Synology RackStation RS1221+ รับส่งข้อมูลกับผู้ใช้ได้เร็วขึ้น ก็สามารถใช้อะแดปเตอร์ตัวนี้ได้เลย
อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้ NAS ทำงานได้เร็วขึ้น คือ แคช (Cache) มันเป็นเหมือนพื้นที่พักข้อมูลที่จำเป็นและเรียกใช้บ่อย ถ้ามีส่วนนี้ก็จะช่วยให้การทำงานโดยรวมรวดเร็วขึ้น แต่เนื่องจากว่าบางคนจะชอบนำช่องใส่ฮาร์ดไดรฟ์บางส่วนบน NAS มาใช้เป็นแคช ทำให้เราเสียพื้นที่จัดเก็บไปโดยเปล่าประโยชน์
อะแดปเตอร์ E10M20-T1 จึงเข้ามาตอบโจทย์ส่วนนี้ เพราะมีสล็อต M.2 NVMe SSD รองรับทั้งขนาด 2280 และ 22110 ไว้สำหรับทำเป็นแคชแยกโดยเฉพาะ เราจะสามารถใช้ช่องใส่ฮาร์ดไดรฟ์ได้อย่างเต็มที่ ไปพร้อม ๆ กับการทำแคชความเร็วสูง M.2 SSD ครับ
สำหรับใครกำลังมองหา NAS เจ๋ง ๆ สักตัวหนึ่งมาใช้งานในธุรกิจหรือสตูดิโอ แนะนำ Synology RackStation RS1221+ ตัวนี้เลยครับ >> https://sy.to/exmtm
เรียนรู้เกี่ยวกับ Synology RackStation RS1221+: https://sy.to/swijp
เรียนรู้เกี่ยวกับ Synology E10M20-T1: https://sy.to/na8cc
You must be logged in to post a comment.