รีวิว Vivo V15 Pro สมาร์ทโฟนสุดล้ำนวัตกรรมจอไร้ติ่งพร้อมกล้องหน้า POP-UP รุ่นแรกในเมืองไทย

Vivo V15 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในเมืองไทยกล้องหน้าแบบ pop-up ทำให้ไร้ติ่ง ไร้รูบนหน้าจอ และกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล ส่วนของกล้องหน้าจะความละเอียดสูงที่สุดในโลกเวลานี้ จอ Ultra FullView Super AMOLED ไร้รอยบาก-ไร้รูบนจอขนาด 6.39 นิ้ว กล้องหลัง AI Triple camera ส่วนชิปประมวลผลจะเลือกใช้ Snapdragon 675 รุ่นล่าสุดและเป็นค่ายแรกที่ใช้ชิปตัวนี้ หน่วยความจำที่ให้มาคือ RAM 6GB / ROM 128GB ทั้งหมดที่กล่าวมาแลกกับค่าตัวเพียงแค่ 14,999 บาทเท่านั้น เดี๋ยวเราไปดูการใช้งานจริงพร้อมๆกันครับ

SPEC Vivo V15 Pro

• หน้าจอไร้ขอบ (Ultra Fullview Display) Super AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล
• ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 675AIE Octa Core ความเร็ว : 2.0 GHz
• GPU Adreno 612
• RAM 6 GB
• ROM 128GB รองรับ microSD CARD 256 GB
• Wi-Fi Dual-Band (2.4GHz & 5GHz)
• Dual 4G / Dual VoLTE
• ระบบปฎิบัติการ Android 9.0 ครอบทับด้วย Funtouch OS 9
• ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า Face Access
• ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display Fingerprint Scanner)
• กล้องหลัง AI Triple Camera ความละเอียด 48+8+5 ล้านพิกเซล
• กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
• แบตเตอรี่ขนาด 3700 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging
• ขนาดตัวเครื่อง 157.25mm×74.71mm×8.21 มม. น้ำหนัก 185 กรัม
• สีที่วางจำหน่าย Topaz Blue(น้ำเงิน-ฟ้า) และ Coral Red(แดง-ส้ม)
• ราคาวางจำหน่าย 14,999 บาท

แกะกล่องเช็คของ

ตัวกล่องยังคงเหมือน V ซีรี่ย์ที่ผ่านมา บอกรายละเอียดไว้คร่าวๆ อุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาถือว่าดีมากๆครับ

1. ตัวเครื่อง Vivo V15 Pro
2. อแดปเตอร์ที่รองรับ เทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging
3. สาย micro usb
4. หูฟัง
5. เคสใสอย่างดี
6. เข็มจิ้มถาดซิม
7. คู่มือและใบรับประกัน

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

Vivo V15 Pro มากับหน้าจอไร้ขอบ (Ultra Fullview Display) Super AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล กระจกแบบ 2.5D อัตราส่วน 19.5:9 ขอบจอด้านข้างมีความบางเพียง 1.75 มม. สัดส่วนหน้าจออยู่ที่ 91.64% เนื่องจากเป็นจอแบบ Super AMOLED การแสดงผลที่สวย สีสมจริงมาก ค่าความเที่ยงตรงของสี sRGB 100% ค่า Contrast Ratio อัตราส่วนความเปรียบต่างของสี 10,000,000:1 แสดงสีสันได้อย่างคมชัด แม่นยำ และใช้พลังงานน้อยกว่า

เซนเซอร์วัดแสงได้ถูกฝังไว้บนหน้าจอเรียบร้อยนะครับ ไร้สิ่งกวนตาเวลามอง เพลิดเพลินในการรับชมยิ่งขึ้น

บนหน้าจอยังมีเทคโนโลยี In-Display Fingerprint Scanner หรือระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ สำหรับ Vivo V15 Pro ได้พัฒนามาถึง 5th-Generation กันแล้ว สามารถสแกนได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้นเพราะใส่ชิ้นเลนส์เพิ่มมาเป็น 3 ชิ้นเลนส์ และยังทำงานควบคู่กับ AI ของทาง Qualcomm ทำให้สามารถสแกนลายนิ้วมือได้ความเร็วที่ 0.37 วินาที

ขอบจอด้านบนจะมีเพียงตำแหน่งของลำโพงสนทนาเท่านั้น

กล้องหน้าถูกซ่อนไว้ภายในด้วยเทคโนโลยี Elevating Front Camera หรือเรียกง่ายๆคือกล้องหน้าแบบ pop-up นั้นเอง กลไกและโครงสร้างตัวกล้องจะเป็นโลหะเพิ่มความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน สามารถใช้งานได้ 300,000 ครั้งกันเลยทีเดียว กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ความละเอียดสูงสุดในเวลานี้

ฝาหลังถูกออกแบบลวดลายตัวเครื่องแบบ Spectrum Ripple Design เพิ่มความสวยงามพร้อมกระบวนการเคลือบสีผิวที่มีการเล่นเฉดสีเป็นริ้วโดยคล้ายคลื่นสัญญาณนั้นเอง จะมีทั้งหมดสองสีคือ Topaz Blue(น้ำเงิน-ฟ้า) และ Coral Red(แดง-ส้ม)

ฝาหลังมีความโค้งมนเพื่อเข้ากับสรีระอุ้งมือเวลาถือใช้งาน หยิบจับง่ายอีกด้วย

ด้านหลังจะมีชุดกล้องหลัง 3 ตัว แบบ AI Triple camera พร้อมแฟลช

ด้านล่างตัวเครื่องจะมี ช่องถาดซิมการ์ด / ไมค์สนทนา / ช่อง micro usb / ลำโพงตัวเครื่อง

ด้านขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power

ด้านบนจะเป็นที่ซ่อนกล้องหน้าและ ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. พร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน

ฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งของ ถาดใส่ microSD CARD และปุ่ม(smart button)ฟังก์ชั่นพิเศษ สามารถเข้าไปตั้งค่าการใช้งานภายในเมนูได้อีกครั้ง

ตำแหน่งของถาดซิมการ์ดและถาดเพิ่มหน่วยความจำจะแยกกันคนละส่วนนะครับ ไม่สับสนนะ

ขนาดตัวเครื่อง 157.25mm×74.71mm×8.21 มม. น้ำหนัก 185 กรัม เมื่อถือใช้งาน

ระบบปฎิบัติการ

Vivo V15 Pro มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการที่ใหม่ล่าสุดคือ Android 9.0 ครอบทับด้วย Funtouch OS 9 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่ทาง Vivo หน้าตา UI ที่สวยงามและสบายตาขึ้น ทำงานได้ลื่นไหล มีโหมดการทำงานต่างๆให้มาเยอะมาก เช่น

• AI Album Framing จะช่วยจัดองค์ประกอบของภาพ
• ปุ่ม smart panel ปุ่มทางลัดนั้นเอง
• การโคลแอป / โหมดขับขี่ / โหมดเด็ก ก็ยังคงมีมาให้ใช้งานปกติ
• และ Jovi ผู้ช่วยอัจฉริยะก็ได้ถูกพัฒนาขึ้น

ประสิทธิภาพการทำงาน

Vivo V15 Pro เลือกใช้ชิปประมวลผลของ Qualcomm Snapdragon 675AIE Octa Core ความเร็ว : 2.0 GHz ขบวนการผลิต 11 นาโนเมตร ระบบ AI ที่ฉลาดขึ้น ส่วนชิปการ์ดจอสำหรับการใช้งาน 3D คือGPU Adreno 612 ชิปชุดนี้ให้ประสิทธิภาพดีมากๆแถมยังใช้งานตัวเครื่องไม่ร้อน กินไฟน้อยช่วยประหยัดพลังงานใช้งานได้ยาวนานขึ้น

หน่วยความจำภายใน RAM 6 GB / ROM 128 GB รองรับ microSD CARD 256 GB

สำหรับการเล่นเกมส์ทาง Vivo เองได้พัฒนาเทคโนโลยีตัวใหม่นั้นคือ Dual-Turbo ขึ้นมา จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นเมื่อใช้งานร่วมกับ Funtouch OS 9 ที่มีชื่อว่า Game Mode จะช่วยจัดสรรพลังงาน ช่วยในการแจ้งเตือนต่างๆ  ลดการกระตุกของเกมส์ เฟรมเรตไม่ตกนั้นเอง และยังมีการร่วมพัฒนากับทางค่ายผู้ผลิตเกมส์อย่าง UNREAL อีกด้วย  ส่วนฮาร์ดแวย์ Adreno 612 สามารถเล่นเกมส์ได้ไหลลื่นมาก โดยเฉพาะ PUBG สามารถเปิดความละเอียดสูงสุดได้ด้วยนะ ฮาร์ดแวย์ดี ซอฟแวย์ดี มีชัยไปเกินครึ่ง

ดูหนัง เล่นเกมส์ สบายตาไม่มีอะไรบดบังบนหน้าจอ

กล้องถ่ายภาพ

กล้องหน้าแบบ pop-up รุนแรกในเมืองไทย มีความละเอียดที่ 32 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 มีระบบ AI Beauty เข้ามาช่วยในการถ่ายเซลฟี่ให้สวยมากยิ่งขึ้น

ภาพถ่ายจากกล้องหน้า

กล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera ความละเอียด 48+8+5 ล้านพิกเซล

• กล้องหลักเซนเซอร์รับภาพ Quad Pixel Sensor สามารถถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
• กล้องเลนส์มุมกว้างแบบ AI Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 120 องศา
• กล้อง Depth Camera ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4

โหมดการถ่ายภาพต่างๆให้มาครบมากๆ โหมดการถ่ายภาพทั้งหมดจะมีดังนี้ PPT,PROFESSIONAL,SLOW, TIME-LAPSE, FILTERS, LIVE PHOTOS, BOKEH, HDR,AI FACE BEAUTY, PANORAMA, PALM CAPTURE, GENDER DETECTION,RETINA FLASH, AR STICKERS, AI FACE SHAPING,WATERMARK,AI PORTRAIT LIGHTING,AI SCENE RECOGNITION,AI PORTRAIT FRAMING,AI BODY SHAPING,AI SUPER WIDE-ANGLE CAMERA, AI SUPER NIGHT MODE

โหมด AI SUPER WIDE-ANGLE CAMERA สามารถถ่ายได้สูงสุดที่มุม 120 องศา ไว้ถ่ายทิวทัศ์ต่างๆ และถ่ายบุคคลกลุ่มใหญ่ๆ

สำหรับ Vivo V15 Pro ได้มีโหมดภาพถ่ายกลางคืนแล้วนะ นั้นคือโหมด AI Super Night Mode นั้นเอง ถ่ายภาพกลางคืนโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องครับ เป็นการทำงานเมื่อถ่ายกลางคืนหนึ่งครั้งมันจะเก็บภาพ 12 ภาพพร้อมกันในสภาวะแสงต่างๆแล้วมารวมกันให้ได้เป็นหนึ่งภาพ

ภาพจากโหมดกลางคืน

ถ่ายยังไงไม่ให้แฟนน้อยใจ ถ่ายยังไงไม่ให้เมียด่า ต้องโหมดนี้เลยครับปัญหานั้นจะหมดไป ขอนำเสนอโหมด AI Body Shaping นั้นเอง ใบหน้าสวยอย่างเดียวมันธรรมดาไป ต้องมีหุ่นสวยด้วยจัดไปครับ หรือจะเข้าไปปรับการตั้งค่าเองได้ด้วยนะ จะเพิ่มตรงไหน ลดจุดใด ปรับตั้งค่าได้เลย ด้วยความฉลาดของ AI Body Shaping จะช่วยให้วัตถุด้านข้างไม่บิดเบี้ยวผิดรูปไปจากเดิมด้วย

ภาพถ่ายจากโหมด AI AUTO ครับผม

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ที่มากับเครื่องขนาด 3700 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging ใช้งานได้ยาวนานมาก ใช้ทั่วไปเช้าถึงเย็นสบายๆครับไม่ต้องกังวลเมื่อนำออกไปใช้งานนอกบ้านอีกต่อไป

สรุป

Vivo V15 Pro ถือว่าเป็นผู้นำนวัตกรรมกล้องหน้าและจอภาพแบบแท้จริงครับ กล้องหน้าเทคโนโลยี Elevating Front Camera หรือเรียกง่ายๆคือกล้องหน้าแบบ pop-up ตัวแรกในเมืองไทย กล้องหน้าที่มาพร้อมกับความละเอียดสูงสุดในโลกเวลานี้คือ 32 ล้านพิกเซล. กล้องหลัง AI Triple camera ที่ฉลาดมากๆ แถมกับโหมดใหม่  AI Body Shaping หมดกังวลเมื่อแฟนใช้ให้ถ่ายรูปให้ สวยถูกใจทุกรูปทุกช้อตแน่นอน   จอภาพไร้ขอบ(Ultra Fullview Display)ที่ไร้ติ่ง ไร้รูบนจอภาพอย่างแท้จริง และยังผังเซนเซอร์ต่างๆไว้ในจอภาพอีกด้วย จอแสดงผลได้สวยงามจริง

ทุกอย่างที่ทาง Vivo V15 Pro ครบจบจริงกับค่าตัว 14,999 บาท ถ้าอยากเป็นผู้นำนวัตกรรมตัวจริง จัดไปครับคุ้มมาก

ข้อดี

1. กล้องหน้า ความละเอียดสูงสุดในโลกเวลานี้ที่ 32 ล้านพิกเซล
2. กล้องหน้าเทคโนโลยี Elevating Front Camera ( pop-up) ตัวแรกในเมืองไทย
3. จอภาพ ไร้ขอบ(Ultra Fullview Display) ไร้ติ่ง ไร้รู ตัวแรกในไทย
4. กล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera ตัวแรกของทางค่าย
5. AI Beauty ธรรมดามันน้อยไป เพราะเรามาถึงยุค AI Body Shaping สวยทุกสัดส่วน
6. ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display Fingerprint Scanner) 5th-Generation ที่สแกนได้เร็วและแม่นยำขึ้น
7. ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 675AIE ตัวแรกในไทย แรงเพียงพอสำหรับการใช้งาน
8. หน่วยความจำขนาดใหญ่ RAM 6 GB / ROM 128 GB
9. แบตเตอรี่ 3700 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging
10. ตัวเครื่องออกแบบได้สวยงามน่าถือใช้งาน

ข้อพิจารณา

1. พอร์ตเชื่อมต่อยังเป็น micro-USB
2. ชนิดหน่วยความจำแบบ eMMC
3. AI Super Night Mode ยังทำงานได้ไม่ดีนัก รอการอัพเดทเฟริมแวร์อีกที