ชูจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง กล้องหลังแบบคู่(dual camera) ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้าสำหรับถ่ายเฟลฟี่แบบคู่(dual camera)ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล และยังมาพร้อมกับหน้าจอแบบ HUAWEI FullView Display ขนาด 5.93 นิ้ว ความละเอียด FHD+ บนอัตราส่วน 18:9 เรื่องความปลอดภัยมาทั้งระบบปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า(Face Unlock)และสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint ID) ในด้านประสิทธิภาพของตัวเครื่อง จะมาพร้อมกับชิปประมวลผล Kirin 659 Octa-Core หน่วยความจำ RAM 3 GB / ROM 32GB ใช้งานได้ยาวนานขึ้นเพราะมากับแบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh ทั้งหมดที่กล่าวมา ด้วยค่าตัวเพียง 6,990 บาทเท่านั้นเองครับ
เดี๋ยวเราไปดูพร้อมกันเลยดีกว่าว่า จ่ายเพียงเท่านี้ HUAWEI Y9 2018 สามารถทำอะไรได้บ้าง เมื่อนำมาใช้งานจริงจะคุ้มเพียงใด ตามไปดูพร้อมกันได้เลยครับ
กล้องถ่ายรูป
กล้องหน้าแบบคู่(dual camera)ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับ AR และจะมี AR Sticker เข้ามาให้เพิ่มการใช้งานในส่วนของเซลฟี่ มีโหมด portrait สามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ กล้องเซลฟี่มีโหมดให้เลือกปรับใช้งานเยอะมากครับ (เดี๋ยวจะลงรายละเอียดแบบเจาะลึกให้ที่พันทิปอีกที)
ภาพจากกล้องหน้าคร่าวๆครับ
กล้องหลังแบบคู่(dual camera) ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล โหมดการใช้งานเทียบกับตัวเรือธงได้เลย หรืออาจจะมีให้เลือกปรับเยอะกว่าเรือธงของหลายๆค่ายด้วยซ้ำ โดยเฉพาะคนที่ชอบปรับ manual น่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ โดยส่วนตัวผมก็ชอบครับ มันยืดหยุ่นการใช้งานได้มากกว่า และก็ไม่พลาดสำหรับการถ่ายภาพส่วนบุคคล portrait สามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้เหมือนเดิม
หน้าตา UI ของกล้องหลัง
ภาพถ่ายจากกล้องหลังโหมด auto
แสงน้อยภายในอาคาร
ลองปรับ manual กันดูดีกว่าว่าประสิทธิภาพของชุดกล้องจะไปได้ขนาดไหนเมื่อเจอแสงน้อย(จริงๆภายในเมนูก็จะมีโหมดวาดแสงครับ ถ่ายได้เช่นกัน แต่ผมอยากลองของเท่านั้นเอง)
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
ตัวเครื่อง HUAWEI Y9 2018 มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 5.93 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 แบบ HUAWEI FullView Display ทำให้มีพื้นที่ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกมส์ หรือท่องโลกโซเซียล
หน้าจอแสดงผลได้สวยงาม สีสดจัดจ้านดีจัง สามารถปรับอุณหภูมิของหน้าจอได้ครับสำหรับคนที่ต้องการความ Soft และหน้าจอยังสามารถปรับความละเอียดหน้าจอลงได้ เพิ่มระยะเวลาใช้งานของตัวเครื่องไปอีก
เหนือหน้าจอจะมีไฟแสดงสถานะ กล้องหน้าคู่(dual camera)ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล ลำโพงสนทนา และเซนเซอร์วัดแสง
ตัว body เป็นโลหะขึ้นรูป วัสดุและงานประกอบถือว่าดีมากๆ ด้านหลังจะโดดเด่นไปด้วยกล้องหลังแบบคู่(dual camera) ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช และตำแหน่งของ สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint ID) จะอยู่ด้านหลังตัวเครื่องเหมือนกันครับ เสาสัญญาณหัวท้ายดูกลมกลืนไปกับตัวเครื่อง
ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้ / ช่อง micro usb / ไมค์สนทนา และสุดท้ายคือลำโพงตัวเครื่อง ที่ให้เสียงดังใช้ได้เลย
ฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียง – ปุ่ม power
ฝั่งซ้ายจะเป็นช่องถาดซิมแบบ Triple slot ใส่ได้ 2 ซิม และเพิ่มเมมได้พร้อมกัน
สำหรับด้านบน จะมีไมค์ตัดเสียงรบกวนมาให้ครับ
ขนาดตัวเครื่องเมื่อใช้งาน
ประสิทธิภาพการทำงาน
HUAWEI Y9 2018 เลือกใช้ชุดประมวลผล Kirin 659, Octa-core หน่วยความจำภายใน RAM 3 GB / ROM 32 GB และยังสามารถรองรับ microSD CARD ได้สูงถึง 256GB ตอบโจทย์การทำงานได้ดีในระดับที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะสายเกมส์หรือท่องโลกโซเซียล ชิปประมวลผลรวมไปถึงหน่วยความจำ ทำงานได้ไหลลื่นเลยครับ อย่างผมที่ชอบเล่นเกมส์แนว FPS HUAWEI Y9 2018 สามารถประมวลผลได้ไหลลื่น
เกมส์ที่ผมเล่นประจำแนว FPS รองรับการใช้งานเต็มหน้าจอ ถูกใจมากๆเลยครับ
เสียงผ่านหูฟัง มาดีเกินความคาดหมาย ให้คุณภาพเสียงที่ดีและมีวิทยุ FM มาให้ด้วย
คุณสมบัติพิเศษ
- ระบบปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า(Face Unlock)
- สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint ID)
ระบบนำทางผ่าน GPS ถือว่าแม่นยำใช้ได้ ผมลองใช้ทดสอบตามตรอกหรือซอย HUAWEI Y9 2018 สามารถจับสัญญาณได้รวดเร็วประคำนวนเส้นทางได้ดี ไม่พาหลงหรือพาอ้อมครับ
จุดเด่นอีกเรื่องคงหนีไม่พ้นของการรับและส่งสัญญาณ wifi ถึงจะมาพร้อมกับ 2.4GHz แต่ HUAWEI Y9 2018 สามารถปล่อยหรือแชร์ wifi ให้กับอุปกรณ์ชิ้นอื่นได้เลย เป็นตัวกลางในการแชร์สัญญาณครับ หรือถ้าเรียกกันแบบศัพท์เข้าใจง่ายก็คือ เป็นแอคเซสพอยต์ให้กับอุปกรณ์ตัวอื่นได้ รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้ 4 อุปกรณ์ ถือเป็นจุดเด่นเลยเรื่องการเชื่อมต่อ
sensor ที่จำเป็นมาครบครับ gyroscope sensor ก็มีมาให้นะครับ
แบตเตอรี่ 4000 mAh ถือว่าให้มาเยอะมาก หมดกังวลเรื่องการใช้งานหรือนำออกไปใช้งานนอกบ้านได้เลย ผมใช้งานที่ออนเฟสเกือบทั้งวัน เช้าถึงเย็นไม่เคยหมดครับ กลับมาถึงบ้านยังใช้งานได้อีกระยะ เรื่องแบตเตอรี่ต้องยกให้เขาว่าอึดจริง
ระบบปฎิบัติการ
HUAWEI Y9 2018 มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android™ 8.0 ครอบทับด้วย EMUI 8.0 หน้าตา UI ที่สวยงามเรียบง่ายและมีธีมให้โหมดใช้งานฟรีๆอีกเพรียบครับ การทำงานที่ลื่นไหลและเรื่องการแจ้งเตือนทำได้ดีมากๆ มีการแจ้งเตือนทั้งระบบเสียง ไฟแจ้งสถานะ รวมไปถึงตัวเลขบนไอคอนเมนู หมดกังวลเรื่องการติดต่อสื่อสาร ไม่พลาดเรื่องสำคัญอีกต่อไป มีโหมดฟังก์ชั่นใช้งานง่ายมาให้ กรณีผู้สูงอายุหรือต้องการความเรียบง่ายในการใช้งานขึ้นไปอีกครับ
รองรับการใช้งาน 2ID แยกกันใช้งานอย่างชัดเจน แยกเรื่องการทำงานและส่วนตัวให้ง่ายขึ้น
เพิ่มความง่ายสำหรับการใช้งานเข้าไปอีก กับฟีเจอร์ต่างๆที่ทาง HUAWEI Y9 2018 ใส่เข้ามาให้ เช่นการแคปหน้าจอแบบรวดเร็ว / เปลี่ยน-สลับตำแหน่งของปุ่มนำทาง และปุ่มควบคุมทิศทางลอยตัว
สรุปการใช้งาน
หลังจากใช้งานมาซักพัก ประสิทธิภาพที่ HUAWEI Y9 2018 ให้มาเมื่อเทียบกับราคาเพียง 6,990 บาท ถือว่าให้มาเยอะมากๆ เมื่อเทียบกับSmart Phone หลักหมื่น ไม่ว่าจะกล้อง 4ตัว ที่วางใจได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง หน้าจอแบบ HUAWEI FullView Display ขนาด 5.93 นิ้ว ความละเอียด FHD+ บนอัตราส่วน 18:9 ที่แสดงผลได้สวยงามในเรทราคานี้ถือว่าดีมาก ด้านความปลอดภัยต่างๆ ไม่ว่าสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคหน้าจอ/สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint ID) และใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4000mAh หมดกังวลเรื่องนำออกไปใช้งานนอกบ้าน
และได้เพิ่มความน่ารักให้กับกลุ่มลูกค้าสมาร์ทโฟนของ HUAWEI Y9 2018 ด้วยการนำเอา ‘JayTheRabbit’ และ ‘คนอะไรเป็นแฟนหมี’ เป็นพรีเซนเตอร์ ตัวแทนคนยุคโซเชียล
“สำหรับผู้ที่สนใจ HUAWEI Y9 2018 มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีดำ (Black) สีน้ำเงิน (Blue) และสีทอง (Gold) ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถสั่งจองสินค้าได้ในระหว่างวันที่ 16 – 29 มีนาคมนี้ ที่ หัวเว่ย แบรนด์ช้อป ร้านตัวแทนจำหน่าย และร้านค้าออนไลน Shopee (https://shopee.co.th) โดยลูกค้าที่สั่งจองสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าวจะได้รับของสมนาคุณพิเศษ ‘HUAWEI Body Fat Scale’ มูลค่า 2,990 บาท ฟรี!”)
SPEC HUAWEI Y9 2018
Camera | 4 CamerasFront camera: 16MP+2MP
Rear camera: 13MP+2MP |
Display | Huawei FullView DisplaySize: 5.93 inches
Resolution: 2160 X 1080 (FHD+) |
CPU | HUAWEI Kirin 659 CPU, Octa-core4* Cortex A53 2.36 GHz + 4*Cortex A53 1.7 GHz |
System OS | Android™ 8.0 |
Emotion UI | EMUI 8.0 |
Memory | ROM: 32 GBRAM: 3 GB
microSD: supports card up to 256GB |
SIM Card | Three-Card SlotDual Nano Sim Cards + Micro SD Card |
Network | Support All TH Band |
Battery | 4,000 mAh |
Size | Height: 157.2mm; Width: 75.3mm; Depth: 7.89mmWeight: About 170g |
Color | Black, Blue, Gold |
You must be logged in to post a comment.