รีวิว ZTE Axon7 Mini เรือธงลำเล็กมาพร้อมกับระบบเสียง DOLBY ATMOS ขับ Dual Speakers พร้อมชิปเสียง HiFi

กราบสวัสดีกันอีกครั้งครับ หลังจากปล่อยรีวิวพี่ใหญ่จากค่าย ZTE ออกไป (Axon7) เสียงตอบรับถือว่าเยอะมาก ทั้งหน้าจอ ระบบเสียง รวมไปถึงพลังความแรง บอกเลยว่ามีแค่ (Axon7) ก็ครบจริงๆ และสำหรับรอบนี้ผมมีตัวเล็กมารีวิวให้ชมกันอีกคั้ง และยังอยู่ใน Axon7 Series เช่นเดิม แต่ราคาจะประหยัดลงมาอีกนิด(4,000 บาท) สำหรับเป็นทางเลือกครับ นั้นคือ ZTE Axon7 Mini นั้นเอง .

spec ZTE Axon7 Mini

• หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD (1080×1920 พิกเซล : 424 ppi)
• ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) (Dual Standby 4G+3G )
• ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 617 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz
• GPU Adreno 405
• RAM ขนาด 3GB
• ROM ขนาด 32GB พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุด 128GB รองรับ OTG
• ชิปประมวลผลเสียง HiFi-AKM 4962
• ลำโพงคู่ บน-ล่าง (Dual-Speaker) พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos
• กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบคู่ Dual-LED, F/1.9 และมีระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus)
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล F/2.2
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
• แบตเตอรี่ความจุ 2,705 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง Quick Charge 2.0
• รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
• ตัวเครื่องมีขนาด 147.5x71x7.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 153 กรัม
• ราคา 11,990 บาท

แกะกล่อง เช็คของ 

ตัวกล่องโทนขาวล้วน ด้านหน้าจะพิมพ์ชื่อรุ่นชัดเจน Axon7 Mini ส่วนด้านหลังก็แจ้งรายละเอียดนิดหน่อยรวมไปถึงสีตัวเครื่องครับ

การจัดวางอุปกรณ์ภายในกล่องครับ ตัวกล่องแข็งแรงทนทานต่อการกดทับแน่นอน

ตัวเครื่องนอนรอการปลุกมาใช้งาน สวยงาม ตามสมัยนิยมจริงๆ

อุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย

1. ตัวเครื่อง
2. ที่ชาร์ทแบต Quick Charge 2.0
3. สาย USB Type-C
4. หูฟัง
5. เคสแบบซิลิโคนใส
6. เข็มจิ้มซิม
7. คู่มือใช้งาน
8. ใบรับประกันแบบ VIP

รูปลักษณ์ภายนอก วัสดุและการออกแบบ

เป็นที่รู้กันว่า  Axon7 Series นั้นได้ถูกออกแบบจากบริษัทในเคลือของ BMW รูปทรงก็ยังเหมือน Axon7 ย่อส่วนลงมาครับ จากหน้าจอ 5.5 ก็ลงมาเหลือ 5.2 ลดแค่ขนาดแต่คุณภาพต่างๆก็แทบจะไม่ได้ลดตาม ไม่ว่าตัวบอดี้ยังเป็นแบบอลูมินั่มไร้รอยต่อเหมือนเดิม(Aluminum Full-Metal Unibody)กระจกกันรอยก็ยังเป็น Gorillar Glass Gen4 เช่นเดิม ความสวยงาม ความเหมาะมือในการถือ ผมว่าเหมาะมือเลย .ตัวเครื่องมีขนาด 147.5x71x7.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 153 กรัม เมื่ออยู่ในมือครับ

ด้านหน้าส่วนบนประกอบด้วย  กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล  F/2.2 ลำโพงสำหรับใช้งานในการสนทนารวมไปถึงเล่นไฟล์มีเดีย และไฟแสดงสถานะ ส่วนเซนเซอร์ต่างๆได้แอบอยู่ในช่องรูเล็กๆนั้นหล่ะครับ ยังมีครบเช่นเดิม

ด้านล่างถัดจากหน้าจอลงไป ทั้งแถบนั้นหล่ะคือลำโพงหลักตัวเครื่อง เสียงไม่ต้องบรรยายให้ยาว บอกเลยว่าแจ่มจริง / ด้านล่างตัวเครื่อง รูเล็กๆสำหรับไมค์สนทนาและพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์ทแบตหรือโอนถ่ายข้อมูลครับ รองรับ OTG ด้วยนะ

ด้านข้างฝั่งขวาจะมีปุ่ม  เปิด-ปิด ตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มปรับระดับเสียง

ฝั่งซ้ายตัวเครื่องยังเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด รองรับการใช้งานสองซิมแบบไฮบริทครับ (Dual Standby 4G+3G )

ด้านบนของตัวเครื่อง จะเป็นช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 mm. และรูไมค์โครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน

ด้านหลังตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบคู่ Dual-LED F/1.9 ระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ถัดลงไปจะเป็น เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)

ใบประกันที่แจ้งไว้ก่อนหน้าแบบ VIP ครับ

ระบบปฎิบัติการ ฟังก์ชันการทำงานเบื้องต้น

ZTE Axon 7 Mini มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย MiFavor UI 4.0 หน้า Home screen ยังคงรูปแบบเดิมของ  MiFavor UI 4.0 ตัวเครื่องมีธีมให้เลือกปรับเปลี่ยนได้ 5 แบบครับ รูปแบบการตั้งค่าต่างๆ ก็ Marshmallow นี่หล่ะครับ

ธีมและการปรับตั้งค่าไอคอน ยังมีให้ปรับบ้างนิดหน่อย

ประสิทธิภาพการทำงาน

เรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานสำหรับ ZTE Axon 7 Mini จะมากับ CPU Qualcomm Snapdragon 617 1.5GHz / Adreno 405 ความแรงอาจจะไม่ปรึ๊ดปร๊าดเหมือนพี่ใหญ่ การใช้งานทั่วไปทำออกมาได้ดี ตัวเครื่องแทบจะไม่มีความร้อนออกมา การเล่นเกมส์โหมด 3D หนักๆ บางเกมส์ก็มีหน่วงๆบ้างครับ. คะแนนที่ลองทดสอบกับแอ๊พยอดนิยมครับ

ส่วน RAM 3 GB เปิดเครื่อง รันระบบเสร็จจะเหลือให้ใช้งานจริงราวๆ 1.5GB / ROM 32GB จะเหลือให้ใช้งานจริงราวๆ 21GB (แล้วมันหายไปไหนหมด ตอบเลย เพราะทาง ZTE ได้ลงหนัง DEMO มาให้ทดลองใช้งานครับ ถ้าอยากได้พื้นที่กลับมา ลบหนังออกไปครับ เดี๋ยวส่วนที่หายไปจะกลับมาเอง)

หน้าจอแสดงผล

การใช้งานของทุกคน จะใช้งานมากหรือน้อยก็ต้องใช้งานผ่านหน้าจอแทบทั้งสิ้น จอแสดงผลสวยงามทำให้อยากใช้งานมากขึ้น ZTE Axon 7 Mini เลือกใช้หน้าจอแบบ AMOLED แสดงผลสวยงามครับ การเกลี่ยสีทำออกมาได้ดี หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD 424ppi รองรับมัลติทัชได้ 10 จุด การเกลี่ยสีทำออกมาได้ดีมาก และความสว่างหน้าจอก็สูง สามารถนำออกไปใช้งานภายนอกอาคารหรือแสงเยอะได้สบาย . แต่ผมมีความรู้สึกว่า เวลาทัชหน้าจอ ไม่ค่อยจะลื่นเท่าไหร่ การตวัดหรือกวาดนิ้ว มันจะไม่ติดลื่นมือแบบพี่ใหญ่ Axon7 ตัวนั้นแจ่มของจริงเรื่องหน้าจอ

การปรับแต่งปลีกย่อยในส่วนการแสดงผลก้ปรับตั้งค่าได้บ้าง เช่นการตัวช่วยหน้าจอ / ปุ่มนำทาง สามารถย้ายสลับตำแหน่งได้ / ตัวหนังสือ ปรับขนาดได้และเลือกฟร้อนได้

ระบบเสียง

ZTE Axon 7 Mini มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมชิปเสียงใหม่ HiFi-AKM492 ขับผ่านลำโพงสเตอริโอคู่ที่อยู่ด้านหน้าของตัวเครื่อง เสียงที่ขับออกมา เสียงดีจริง . มิติเสียงต่างๆมาครบครับ รายละเอียดของเสียงที่สมจริง สำหรับผมยกให้ ZTE Axon 7 Mini เป็นสมาร์ทโฟนที่ราคาไม่เกินหมื่นสองพัน ที่เสียงดีมากๆ อยากให้ไปลองกันครับว่า ลุงยาม ไม่ได้โม้ (เสียงผ่านลำโพงแทบไม่ต่างกับพี่ใหญ่ axon7 เลย เสียงดีพอกัน) มันเพิ่มอัฐรสในการชมภาพยนตร์ หรือ การฟังเพลง รวมไปถึงเล่นเกมส์ได้เยอะจริง . ส่วนเสียงผ่านหูฟังก็อยู่ในเกณฑ์ดีครับ แต่แนะนำหาหูฟังใหม่เหอะ ที่แถมมาเสียงอาจจะไม่ดีพอครับ

กล้อง

กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มาพร้อมโหมด Beautify สวยใสไร้รอย / Light Suplementary ใช้แสงสว่างชดเชยเวลาแสงน้อยครับ เหมือนเอาแสงจากหน้าจอเป้นแฟรช

กล้องด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีโหมดต่างๆมาให้เลือกปรับครบครัน รวมไปถึงโหมดโปร ที่ตั้งค่าได้เอง พร้อมไฟแฟลชแบบคู่ Dual-LED, F/1.9 และมีระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus)

ภาพถ่ายจากกล้อง ZTE Axon 7 Mini ทุกภาพใช้โหมด auto ครับ (ท้องฟ้าอาจมืดๆไปหน่อย พอดีช่วงมรสุมพายุ ต้องขอโทษที)

คุณสมบัติพิเศษ

สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner Unlock) สแกนนิ้วได้รวดเร็วภายใน 0.25 วินาที เหงื่อออก นิ้วมีน้ำนิดหน่อยก็สแกนติดครับ สามารถอ่านลายนิ้วได้ 360 องศา และเนือไปกว่านั้น มันสามารถจดจำลายนิ้วได้ถึง 5 ลายนิ้วมือ และแต่ละลายนิ้วสามารถสั่งงานผ่านแอ๊พได้โดยตรง เช่นการถ่ายรูป เปิดเฟส เข้าโหมดโทรด่วน ผมว่าสะดวกดีนะ

Sensor ต่างๆมาครบ

Quick Charge 2.0 ชาร์ทแบต เท่าที่ผมลองชาร์ทจาก 10-100% จะใช้เวลาประมาณ 1.20 ชั่วโมงครับ ในกล่องแถมมาให้พร้อมใช้งาน ไม่ต้องไปหาซื้อมาให้เปลืองตังค์เพิ่ม แถมยังรองรับ USB Type-C ด้วย

ส่วนแบตขนาด 2,705 mAh เท่าที่ผมลองใช้งานจริง มันอึดแท้ ผมเอาไปถ่ายรูปในงาน TME และใช้งานหนักๆ รอดพ้นหนึ่งวันได้สบายเลย ทำเอาแปลกใจเล็กน้อยครับ

สรุป

ข้อดี ระบบเสียงดี จอแสดงผลได้สวย แบตอึดมาก ชาร์ทเร็ว และการรับประกันตัวเครื่องที่ ว๊าวมากๆ

จุดสังเกตุ CPU อาจจะไม่เหมาะกับกลุ่มเล่นเกมส์หนักๆ / การทัชหน้าจอ ยังมีหน่วงๆบ้าง รออัพเดทอีกรอบ / หูฟังที่แถมมา เสียงไม่ค่อยแจ่ม / Notification ไม่แสดงบนไอคอน

ขอกราบลาเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ รอบหน้าเจอกันใหม่เด้อ…ไปหล่ะ

By ลุงยาม สายโหด